กบง.เล็งรื้อโครงสร้างราคา 'เอ็นจีวี' ทั้งระบบใน 3 เดือน
กบง. สั่งตั้งคณะทำงานร่วมฯ เตรียมรื้อโครงสร้างก๊าซเอ็นจีวี รับมือเทรนด์พลังงานโลกเปลี่นย เห็นชอบลดราคากลุ่มรถโดยสารสาธารณะ 3 บาทต่อกิโลกรัม ช่วง 3 เดือน เริ่ม 1 เม.ย.นี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)วานนี้(25มี.ค.)ว่า ได้มอบหมายให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังาน ประสานงานกับกระทรวงคมนาคม และ ปตท. จัดตั้งคณะทำงานร่วมฯเพื่อพิจารณามาตรการระยะยาวสำหรับปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ในอนาคต เนื่องจากการส่งเสริมการใช้ก๊าซ NGV กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ปตท.ต้องเป็นผู้เข้าไปแบกรับภาระส่วนต่างราคามาตลอด ขณะเดียวกันก๊าซ NGV ก็ถือเป็นพลังงานสะอาดที่ช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5
ดังนั้น จึงต้องวางแนวทางส่งเสริมการใช้ก๊าซ NGV ในระยะยาวให้เกิดประโยชน์ ครอบคลุมผู้ใช้ก๊าซ NGV ทุกกลุ่ม และสอดรับกับทิศทางการใช้พลังงานในอนาคต ที่จะมีเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามามากขึ้น โดยคณะทำงานร่วมฯชุดนี้ จะต้องหารือให้ได้ข้อสรุป ภายในระยะเวลา 3 เดือน และนำผลเข้าสู่ที่ประชุม กบง.พิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ได้เห็นชอบให้ปรับราคาขายปลีกก๊าซ(NGV) สำหรับรถโดยสารสาธารณะ ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ได้แก่ รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก รถตู้ ร่วม ขสมก. และในต่างจังหวัด ได้แก่ รถโดยสาร รถมินิบัส รถสองแถว ร่วม ขสมก. รถโดยสาร รถตู้ร่วม บขส. และรถแท็กซี่ ลดลง 3 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เหลืออยู่ที่ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 2563
โดยขอความร่วมมือบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ให้เข้ามาช่วยเหลือส่วนต่างราคาขายปลีก NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะฯ เพื่อคงราคาขายปลีกที่ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือนดังกล่าว
“โรคโควิด-19 ยังคงมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ รวมถึงระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ กระทรวงพลังงาน จึงเห็นควรมีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มรถโดยสารสาธารณะเพื่อบรรเทาผลกระทบ”
นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า จากยอดการใช้ก๊าซ NGV ต่อวัน อยู่ที่ประมาณ 1,500 ตัน คาดว่าจะต้องใช้เงินเข้าไปอุดหนุนเพิ่มประมาณ 100 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเบื้องต้นจะมีกลุ่มรถสาธารณะที่ได้รับประโยชน์ผ่านการลงทะเบียนถือบัตรส่วนลดเติมก๊าซ NGV ของปตท.ประมาณ 8 หมื่นคัน ส่วนในอนาคตหากปรับปรุงกลไกการช่วยเหลือผู้เติมก๊าซ NGV อย่างไรนั้น ก็คงจะต้องหารือในรายละเอียดวิธีดำเนินการต่อไป
