'จุรินทร์' เข้มตั้งวอร์รูมเกาะติด 7 กลุ่มสินค้า-บริการ รับมือโควิด-19

'จุรินทร์' เข้มตั้งวอร์รูมเกาะติด 7 กลุ่มสินค้า-บริการ รับมือโควิด-19

"จุรินทร์" เข้มตั้งวอร์รูมเกาะติด 7 กลุ่มสินค้า-บริการ เร่งกระจายแบบ Delivery-ออนไลน์ รองรับสถานการณ์ที่ความต้องการมีเพิ่มมากขึ้น บมือโควิด-19

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 63 ที่ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 อาคารสำนักงานปลัด กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์)

นายจุรินทร์ แถลงผลการประชุมว่า วันนี้ได้เชิญประชุม กรอ.พาณิชย์ ซึ่งประกอบด้วยข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนจากภาคเอกชนประกอบด้วยสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือ และสมาคมอื่นๆ เช่นสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย สมาคมผู้ผลิตและแปรรูปสุกรเพื่อการส่งออก บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) สมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย สมาคมขนส่งโลจิสติกส์ไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ ซึ่งวันนี้ได้มีการหารือเรื่องสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ในสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญกับโควิด-19 ว่าจะประเมินสถานการณ์ร่วมกันว่าอย่างไร และประเด็นสำคัญที่สุดก็คือภาครัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงพาณิชย์จะสามารถเข้าไป ในการช่วยเหลือแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ หรือสนับสนุนอย่างไร ทั้งในส่วนของสมาคมที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่พูดถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าควรจะตั้งวอร์รูมสำหรับ 7 กลุ่มสินค้าและบริการสำคัญ เพื่อให้ทางกระทรวงพาณิชย์และเอกชนที่เกี่ยวข้องได้ทำงานเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการประเมินสถานการณ์ร่วมกันว่าในภาคส่วนของการผลิต การแปรรูปตลาด รวมทั้งการกระจายสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ เช่น Delivery หรือ ออนไลน์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อสนองต่อความต้องการของประชาชนในประเทศขณะนี้ รวมทั้งสถานการณ์ส่งออกและประเมินว่ามีสินค้าใดหรือไม่ ที่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการกันชนเพื่อที่จะรองรับสถานการณ์หากความต้องการมีเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งจากกลุ่มที่ว่านี้ประกอบด้วย

1.อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ประกอบด้วย บะหมี่สำเร็จรูป น้ำดื่ม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มเป็นต้น

2.กลุ่มข้าว

3.กลุ่มปศุสัตว์ ประกอบด้วยไก่ ไข่ หมู กุ้งและสินค้าอื่นเป็นต้น

4.ผลไม้ซึ่งกำลังจะออกมามากในช่วงต้นเดือนหน้าที่จะถึงนี้แล้ว

5.วัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารสัตว์ ซึ่งจะเป็นต้นทางของการผลิตไก่ หมู กุ้ง สินค้าบริโภคต่อไป ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ประกอบด้วยมันสำปะหลัง ข้าวโพด ถั่วเหลืองเป็นต้น

6.เวชภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งเจลแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัย

7.บริการโดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและโลจิสติกส์ต่างๆและการให้บริการ delivery ส่งอาหารไปถึงบ้านเป็นต้น

ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จเพื่อให้ได้คำตอบโดยเร็วว่าต้องมีมาตรการใดๆ เพิ่มเติมหรือมีสิ่งที่ภาครัฐจำเป็นต้องเป็นแก้ไขเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนทั่วประเทศในสถานการณ์นี้ให้ดีที่สุด


นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ปัญหาเท่าที่เห็นร่วมกันของทุกกลุ่มคือเรื่องของการขนส่งไม่ว่าจะเป็นการขนส่งเข้าสู่โรงงาน หรือขนส่งจากโรงงานไปยังศูนย์กระจายสินค้าจนกระทั่งถึงมือผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นปัญหารวมที่ต้องการให้การลำเลียงสินค้าต่างๆเป็นไปด้วยความสะดวก ซึ่งจะต้องขอให้ทางกระทรวงคมนาคมช่วยผ่อนคลายกฎระเบียบบางอย่างเพื่อให้สามารถทำได้สะดวกและคล่องตัวขึ้น ทั้งในเรื่องของกฎระเบียบอื่นๆ เรื่องเงื่อนเวลาที่จะส่งสินค้าอุปโภคบริโภคจากศูนย์กระจายสินค้าหรือยังมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว