ฮาวทูอยู่บ้านกับ ‘พ.ร.ก. ฉุกเฉิน’ เปิด 10 วิธีใช้ชีวิตให้แฮปปี้

เปิดคู่มือ How to 10 วิธีอยู่บ้านให้ราบรื่น เมื่อรัฐประกาศใช้ ‘พ.ร.ก. ฉุกเฉิน’ ไม่ต้องออกไปนอกบ้านก็ใช้ชีวิตให้สนุกและมีความสุขได้
แม้รัฐบาลจะยังไม่ประกาศ ‘เคอร์ฟิว’ แต่ก็มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร โดยใช้อำนาจพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-30 เม.ย. 2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรี จะรับหน้าที่บัญชาการการจัดการโควิด-19 ด้วยตนเองทุกมิติเต็มตัว ทั้งการระบาด รักษาพยาบาล เยียวยา และฟื้นฟูประเทศจากผลกระทบโควิด-19 และรายงานตรงต่อประชาชน
สิ่งที่ต้องตามต่อ คือ ประชาชนจะต้องจับตาการประกาศอื่นๆ กันต่อไป ซึ่งหากมีการประกาศ ‘เคอร์ฟิว’ สำหรับสถานการณ์วิกฤติ "โควิด-19" ขึ้นมาจริงๆ อาจหมายความว่าชาวกรุง (บางคน) ต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านกันทั้งวันทั้งคืน!
สำหรับคนที่ชอบเข้าสังคมและไม่ค่อยจะอยู่ติดบ้านมาก่อน มาเจอกฎหมายนี้อาจจะทำให้ชีวิต “อยู่ยาก” ขึ้นไปอีก แต่เพื่อเป็นการควบคุมสถานการณ์วิกฤติ "โควิด-19" ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน และแม้จะไม่มีการประกาศ ‘เคอร์ฟิว’ คนที่มาจากพื้นที่เสี่ยงก็ควรกักตัวเองอย่างน้อย 14 วัน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม แล้วอยู่บ้านนานๆ แบบนี้ก็อย่าเพิ่งฟุ้งซ่าน ลองเปลี่ยนความสติแตกมาเป็นไอเดียอยู่บ้านให้แฮปปี้ในช่วง ‘พ.ร.ก. ฉุกเฉิน’ กันดีกว่า และนี่คือคู่มือ 10 วิธีอยู่บ้านให้มีความสุข ไม่ฟุ้งซ่าน และเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะช่วยให้โรคระบาดครั้งนี้จบไวที่สุด
1. ทำ "หน้ากากผ้า" แจกพี่น้องคนไทย
อยู่บ้านเฉยๆ อย่านิ่งดูดาย ลุกขึ้นมาเย็บ "หน้ากากผ้า" แจกพี่น้องคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการปิดห้างร้านต่างๆ ดีกว่า บางคนตกงาน ไม่มีรายได้ แถมหน้ากากอนามัยก็หายากยิ่งกว่าทอง หากใครติดตามข่าวสถานการณ์โควิด-19 อยู่ก็คงจะทราบว่ายังมีพี่น้องคนไทยอีกหลายอาชีพที่ยังต้องออกไปทำงานข้างนอก เสี่ยงต่อการติดโรค "โควิด-19" อยู่ทุกวัน เช่น พี่ๆ คนเก็บขยะ, ป้าคนกวาดถนน, พี่ๆ คนส่งอาหารเดลิเวอรี่ เป็นต้น
ลองใช้ฝีมือที่มีหัดเย็บหน้ากากผ้าแล้วแจกให้กับผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้เป็นการช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน หรือถ้าไปไม่เป็นจริงๆ ก็อาจจะเปลี่ยนมาบริจาคเงินช่วยสนับสนุนซื้อหน้ากากอนามัยให้กลุ่มแพทย์พยาบาล ผู้ที่เป็นแนวหน้าสู้รบกับเชื้อโรคตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่ร้องขอ แค่นี้ก็เป็นการอยู่บ้านที่มีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นได้แล้ว
2. เป็นจิตอาสา "แจกอาหารฟรี"
อีกหนึ่งอย่างที่ทำได้เมื่ออยู่บ้านก็คือ ตั้งจุด "แจกอาหารฟรี" ให้พี่น้องคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤติ "โควิด-19" เช่น กลุ่มลูกจ้างรายวัน กลุ่มแรงงาน ที่ตกงาน ขาดรายได้ เป็นต้น มีตัวอย่างดีๆ ของฮีโร่คนไทยที่ออกมาช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติด้วยการทำอาหารมาแจกฟรีอยู่หลายราย สามารถเข้าไปดูตัวอย่างกิจกรรมจิตอาสาของพวกเขาได้ที่นี่: ชี้เป้า 'แจกอาหารฟรี' สู้ภัย 'โควิด-19' คนไทยไม่ทิ้งกัน!
3. หัดทำอาหาร พัฒนาเสน่ห์ปลายจวัก
กิจกรรมอีกอย่างที่ช่วยให้คุณสนุกเวลาอยู่บ้านและช่วยลดความฟุ้งซ่านได้ นั่นคือ การเข้าครัวหัดทำอาหาร ไม่ต้องเป็นเมนูยากระดับมิชลินสตาร์หรอก เอาเมนูง่ายๆ ที่กินเป็นประจำในชีวิตประจำวันนี่แหละ จากเดิมอาจจะเคยชินกับการซื้อจากร้านตามสั่ง คราวนี้ลองหัดทำเองบ้าง แล้วจะรู้ว่าบางเมนูทำไม่ยากเลย ราคาถูกกว่าซื้อข้างนอก แถมปรับรสชาติตามใจชอบได้ด้วย ยิ่งใครที่มีกำลังแรงกายและฝึกทำจนมั่นใจว่าอร่อยแล้ว จะลองทำอาหารทีละมากๆ แล้วนำไปแจกให้พี่น้องคนไทยตามคำแนะนำใน ข้อ2 ด้วยก็ได้
4. ฝึกทักษะทางออนไลน์ หารายได้เสริม
ส่วนใครที่กำลังมองหารายได้เสริม ช่วงนี้แหละเหมาะที่สุด ถ้าอยู่บ้านว่างๆ (กรณีที่ต้องกักตัวเองและไม่ได้ work from home) ก็ลองค้นหาคอร์สเรียนภาษาออนไลน์ คอร์สสอนทำขนม คอร์สฝึกอาชีพออนไลน์ต่างๆ แล้วลองหัดทำที่บ้าน ฝึกฝนและพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ ดีไม่ดีก็กลายเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริมให้คุณได้เช่นกัน อาชีพเสริมที่สามารถทำได้ที่บ้านที่อยากแนะนำ ได้แก่ รับจ้างพิมพ์งาน, รับจ้างแกะเทปสัมภาษณ์, รับจ้างแปลภาษาต่างประเทศ, รับงานออกแบบ, รับทำกราฟิกโลโก้, ทำขนมส่งขายออนไลน์, ประดิษฐ์ของใช้ส่งขายออนไลน์ เป็นต้น
5. จัดบ้าน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ
ไหนๆ ก็ต้องอยู่บ้านนานหลายวัน และงดกิจกรรมนอกบ้านทั้งหมด ก็ลองหันมาหากิจกรรมทำในบ้านแทนอย่างเช่น การจัดบ้านและทำความสะอาดบ้าน ยิ่งในช่วงโรคระบาดครองเมืองแบบนี้อย่าปล่อยให้บ้านรกหรือสกปรกเด็ดขาด ลุกขึ้นมาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการทำความสะอาดบ้าน ถูพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช็ดฝุ่นตามตู้ โต๊ะ หัวเตียง ชั้นวางของ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเช่นกัน มุมไหนในบ้านที่เคยปล่อยรกไว้นาน ก็ได้เวลาเคลียร์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยในช่วงนี้ซะที
6. ปลูกต้นไม้ ช่วยฟอกอากาศ
ส่วนคนรักต้นไม้และธรรมชาติ ถือเป็นโอกาสดีที่การอยู่ติดบ้านยาวๆ จะได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านหรือคอนโดของคุณด้วยการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วยลดฝุ่น และทำให้บรรยากาศในบ้านสดชื่น ช่วยให้จิตใจเบิกบาน หรือจะปลูกพวกผักสวนครัวก็ได้ จะได้มีไว้ทำอาหารแบบไม่ต้องเสียตังค์ซื้อ เมื่อไหร่ที่เครียดหรือจิตตกจากการเสพข่าวสถานการณ์ "โควิด-19" มากเกินไป ก็ให้มาปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ รับรองว่าช่วยลดความเครียดได้ทันที
สำหรับต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศในบ้าน ได้แก่ ลิ้นมังกร เดหลี ปาล์มไฝ่ เศรษฐีเรือนนอก พลูด่าง ไทรใบสัก ว่านหางจระเข้ เป็นต้น
สำหรับผักสวนครัวที่แนะนำ ได้แก่ ต้นหอม ผักชี สะระแหน่ พริก ผักชีฝรั่ง ขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง คะน้า เป็นต้น
7. ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย
สำหรับหนุ่มสาวที่รู้สึกอึดอัดจากน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน ขอให้ถือโอกาสในช่วงนี้จัดตารางออกกำลังกายและดูแลตัวเองอย่างจริงจัง และไหนๆ ก็ต้องทำอาหารกินเองอยู่ที่บ้านแล้ว ถ้างั้นก็จัดเมนู "อาหารคลีน" ไปพร้อมกันด้วยเลย ลองตั้งเป้าหมายว่าภายในวันที่ 26 มี.ค. - 30 เม.ย. 2563 ที่รัฐประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ตามอำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งนี้ คุณจะสามารถออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี และลดน้ำหนักส่วนเกินได้กี่กิโลกรัม หากทำตามตารางอย่างมีวินัยเคร่งครัด สุขภาพดีพร้อมรูปร่างฟิตเฟิร์มก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
8. ทำลิสต์หนังที่ชอบ ดูไปให้ตาแฉะ
สำหรับคอหนังน่าจะถูกใจสิ่งนี้ เมื่อมีวันว่างที่ต้องอยู่ติดบ้านยาวๆ หลายวัน ก็คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการดูหนังหรือซีรีย์เรื่องโปรดให้อิ่มเอมใจ ถือเป็นสวรรค์ของคนชอบดูหนังเลยก็ว่าได้ แต่มีคำเตือนว่าอย่าดูติดต่อกันเกิน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะจะเข้าข่ายภาวะเสพติดเทียมหรือ Binge Watching (การดูซีรีส์ติดต่อกันนานหลายชั่วโมง) ซึ่งผลเสียที่จะตามมาก็คือ ความเครียดสะสม ความวิตกกังวล อาการซึมเศร้า มีพฤติกรรมเสพติดการดูทีวีแทนที่ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างจนเข้าสู่สภาวะ "ตัดขาดทางสังคม" ได้ ดังนั้นก็ควรจำกัดชั่วโมงการดูหนังให้พอดีๆ ไม่เกิน 3-4 ชั่วโมงต่อวัน
9. หัดทำของแฮนด์เมด DIY
อีกหนึ่งไอเดียที่สามารถทำได้เมื่ออยู่บ้านและมีเวลาว่าง นั่นคือ การซ่อมแซมสิ่งของชำรุดต่างๆ ภายในบ้าน รวมไปถึงการ DIY ของใช้ในบ้านขึ้นมาเอง จะได้ไม่ต้องออกไปซื้อข้างนอกให้เสี่ยงติดเชื้อ เช่น ทำกระถางปลูกต้นไม้จากขวดน้ำเปล่า, ทำกล่องเก็บผ้าขนหนูจากลังกระดาษ, ทำกระดานติดโน้ตจากจุกก๊อกขวดไวน์ เป็นต้น
10. สวดมนต์ไล่โควิด-19
สุดท้ายนี้ ถ้ายังจิตใจไม่สงบก็ต้องหาที่พึ่งทางใจกันหน่อยแล้ว แนะนำให้ลองค้นหาบทสวดมนต์ "รัตนสูตร" มาสวดมนต์ให้จิตใจสงบและผ่อนคลายลง อาจจะไม่ได้มุ่งหวังผลให้โรคระบาด "โควิด-19" หายไปโดยพลัน แต่อย่างน้อยก็ทำให้ได้ระลึกถึงพระสูตรของพระพุทธเจ้าที่เคยมีมาแต่ครั้งบรรพกาล หากอยากรู้ตำนานและที่มาเกี่ยวกับพระสูตรบทนี้ให้มากยขึ้น ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่: เปิดบทสวด ‘รัตนสูตร’ พระพุทธเจ้าประกาศใช้ปัดเป่าภัยโรคระบาด
'คนละครึ่ง' ลงทะเบียน 20 ม.ค.นี้ ใครไม่มีสิทธิ์รับเงิน 3,500 บาทบ้าง?
‘เราชนะ’ วันนี้ลุ้น! ครม. อนุมัติหลักเกณฑ์จ่าย 'เงินเยียวยา' 31 ล้านคน
'คนละครึ่งเฟส 2' รอบเก็บตก เคยถูกตัดสิทธิ 14 วัน ลงได้อีกหรือไม่?
'ทรัมป์' ร่วง รีพับลิกันล่ม ประชาธิปไตยรุ่ง
เปิดเหตุผล 'เราชนะ' จ่ายเยียวยา โควิดรอบใหม่กระทบพื้นที่เศรษฐกิจ 75%
'ตลาดหุ้น' ที่ไหนจะรุ่ง ที่ไหนจะร่วง ในปี 2021