'ประวิตร' ห่วงภัยแล้งลุ่มน้ำโขง กำชับ สทนช. ประสานเพื่อนบ้าน

'ประวิตร' ห่วงภัยแล้งลุ่มน้ำโขง กำชับ สทนช. ประสานเพื่อนบ้าน

"ประวิตร" ห่วงภัยแล้ง ให้ คกก.แม่น้ำโขงฯ ประสานเพื่อนบ้านใกล้ชิด บริหารจัดการน้ำ ประโยชน์ร่วมกัน ยั่งยืน ประชาชนมีน้ำใช้เพียงพอ

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 63 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ครั้งที่1/2563 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุม รับทราบรายงาน ประธาน คกก.ร่วมคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ของประเทศเวียดนามได้ครบวาระ และได้แจ้งต่อสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ประกอบด้วย ไทย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยคณะกรรมการร่วมฝ่ายไทยซึ่งมีเลขาฯ สทนช.ในฐานะประธานได้เข้ารับตำแหน่งแทนเป็นระยะเวลา1 ปี (1ม.ค.-31ธ.ค.63) สำหรับสถานการณ์ลุ่มน้ำโขง ปัจจุบันมีระดับน้ำลดลงมาก ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่8 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้แก่ จ.เชียงราย จ.เลย จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี

คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบ ร่างท่าทีประเทศไทยต่อโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สปป.ลาว ที่อาจส่งผลกระทบในภาพรวมตามลุ่มน้ำโขงฝั่งไทย เช่นการเปลี่ยนแปลงด้านทุกวิทยาและชลศาสตร์ระดับน้ำขึ้น-ลง อย่างฉับพลัน และช่วงเวลาไม่เป็นไปตามฤดูกาล ตะกอน และสารอาหาร การเปลี่ยนแปลงด้านการให้บริการของระบบนิเวศ การประมงและทางปลาผ่าน ด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการถอดบทเรียนโครงการไฟฟ้าพลังน้ำที่ผ่านมายังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้อย่างชัดเจน เป็นต้น



พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ สทนช. ให้นำมติคณะกรรมการฯ ซึ่งเป็นท่าทีของไทยต่อโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สปป.ลาว เพื่อขับเคลื่อนการทำงานในกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขงให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ร่วมกัน มีความยั่งยืน และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ รวมทั้งมีการกำหนดมาตรการ และแนวทางร่วมกันเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ต่อไป