ตลท.ชี้หุ้นโรงพยาบาล-ประกัน-อาหาร ปรับตัวลดลงน้อยกว่าดัชนีฯ

ตลท.ชี้หุ้นโรงพยาบาล-ประกัน-อาหาร ปรับตัวลดลงน้อยกว่าดัชนีฯ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ โชว์ข้อมูล SET NOTE เรื่อง “กลุ่มธุรกิจที่ผลตอบแทนรวมปรับลดลงน้อยกว่า SET Index ในช่วง COVID-19" พบว่าธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจประกัน ธุรกิจผลิตอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนธุรกิจค้าปลีก ผลตอบแทนรวมปรับลดลงน้อยกว่าดัชนีฯ

ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยบทวิเคราะห์ SET NOTE ฉบับที่ 4/2563 เรื่อง “กลุ่มธุรกิจที่ผลตอบแทนรวมปรับลดลงน้อยกว่า SET Index ในช่วง COVID-19”ว่าในวิกฤตใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ท่ามกลางการระบาดของ COVID ที่เริ่มรุนแรงขึ้นในไทย และในอาเซียน มีหลายธุรกิจที่กำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลังและมีบทบาทสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการควบคุมโรคโดยตรงอย่างธุรกิจโรงพยาบาล หรือช่วยป้องกันความเสี่ยงทางการเงินหากเจ็บป่วยให้กับผู้คนจำนวนมากอย่างธุรกิจประกันหรือช่วยสนับสนุนสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างธุรกิจผลิตอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนธุรกิจค้าปลีกที่กระจายสินค้าให้ทั่วถึงและให้ความเชื่อมั่นต่อประชาชนได้ว่าสินค้าจะไม่ขาดแคลน รวมถึงธุรกิจบริการโทรคมนาคมที่พัฒนาเครือข่ายรองรับการติดต่อสื่อสารทางไกลที่เพิ่มขึ้นในทันทีเมื่อจำเป็นต้องมี social distancing

ในขณะเดียวกัน ผู้ลงทุนมองเห็นอนาคตของธุรกิจเหล่านี้แม้ในภาวะวิกฤตผลตอบแทนรวม (Total return) จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์(รวมการเปลี่ยนแปลงราคาและเงินปันผล) ของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลงน้อยกว่ากว่า SET Index โดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มผู้ผลิตอาหาร (ไม่รวมธุรกิจร้านอาหาร) และกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิตมีผลตอบแทนรวมลดลงน้อยที่สุด 3 ลำดับแรก และหากพิจารณาความเคลื่อนไหวของดัชนีราคาหุ้นในกลุ่มธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่เหนือ SET Index มาโดยตลอด และเริ่มมีทิศทางฟื้นตัว ในช่วงกลางเดือนมีนาคม

อนึ่งการนำเสนอเชิงเปรียบเทียบในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาเพื่อชี้นำการลงทุน เพียงต้องการแสดงให้เห็นศักยภาพของบางกลุ่มธุรกิจในช่วงที่เกิดวิกฤต ผู้ลงทุนควรใช้ความระมัดระวังอย่างอย่างยิ่งในการตัดสินใจลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดยังมีความไม่แน่นอนสูง