'สนธิรัตน์' ถกครม.ออนไลน์ ย้ำลงชื่อรับค่ามิเตอร์ไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 63 ที่กระทรวงพลังงานงาน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า ต้องนับว่าเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ เพราะถือเป็นครั้งแรกที่ ครม.ได้ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดีในการปรับเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงแบบอย่างให้หน่วยงานราชการรวมถึงภาคเอกชนเห็นว่า ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยทุกภาคส่วนสามารถร่วมแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการร่วมมือกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงพลังงาน ได้กำชับผู้บริหาร บุคลากร เจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัส ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยหน่วยงานรัฐต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชน และขอความร่วมมือทุกฝ่าย ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ด้วย

นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงมาตรการลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจรับมือสถานการณ์โควิด-19 ว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังส่งผลกระทบต่อประชาชนไปอีกสักระยะหนึ่ง กระทรวงพลังงานจึงได้มีมาตรการรับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติให้ปรับลดอัตรากองทุนน้ำมันทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร ทำให้น้ำมัน B10 ลดลง 50 สตางค์ต่อลิตร น้ำมัน B20 ลดลง 25 สตางค์ต่อลิตร และจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดหน้าปั๊ม ลดลง 25-50 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E85 ที่จะเพิ่มขึ้น 25 สตางค์ต่อลิตร นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันในส่วนของแก๊สหุงต้ม ทำให้ราคาขายปลีกลดลง 3 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ราคาถังแก๊สหุงต้มขนาด 15 กก. ลดลงถึง 45 บาท จากถังละ 363 บาท เหลือ 318 บาท โดยทั้งหมดมีผลวันนี้ (24 มี.ค.)

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ในวันที่ 25 มี.ค. จะเป็นวันแรกของการลงทะเบียนรับค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าคืน ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ที่การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือทางเว็บไซต์ของหน่วยงานดังกล่าว มีขั้นตอนการลงทะเบียนไม่ยุ่งยาก และประชาชนจะได้รับความสะดวกอย่างสูงสุด อย่างไรก็ตาม ประชาชนไม่จำเป็นต้องเร่งรีบลงทะเบียนในวันแรก เพราะไม่มีการกำหนดวันสุดท้ายของการลงทะเบียน และมาตรการดังกล่าวนี้ไม่ใช่การจำกัดสิทธิ์ แต่เป็นคืนสิทธิ์แก่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งครอบคลุมประชาชน 23 ล้านราย รวมวงเงิน 33,000 ล้านบาท เริ่มจ่ายเงินตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.เป็นต้นไป