กองทุนฟื้น ‘ทริกเกอร์ฟันด์’ หวัง ‘6เดือน’ ตลาดหุ้น ‘ทำกำไร’

กองทุนฟื้น ‘ทริกเกอร์ฟันด์’ หวัง ‘6เดือน’ ตลาดหุ้น ‘ทำกำไร’

ในสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ขณะที่ตลาดหุ้นทั้งตลาดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และตลาดเกิดใหม่ ผันผวนและปรับตัวลดลงแรง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย (SET Index) ที่ปรับตัวลดลงประมาณ 30% แล้วในปีนี้ การหาสินทรัพย์ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดี “ไม่ใช่เรื่องง่าย” 

 เพราะปัจจัยที่เข้ามากระทบ ยังไม่มีทีท่าจะยุติ  ทั้งจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ในหลายภูมิภาคทั่วโลก และปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม  ในช่วงนี้เริ่มมีกองทุนชิงจังหวะออก “กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ( Trigger fund )” มานำเสนอผู้ลงทุนมากขึ้น  ที่เพิ่งจะสิ้นสุดการเปิดขาย( IPO ) ไปหมาดๆ มีจำนวน 2 กองทุน เป็นกองทุนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน( บลจ.) กรุงไทย คือ  "กองทุนเปิดกรุงไทย ทริกเกอร์ ฟันด์3"   โดยมีเงื่อนไขการเลิกกองทุนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10.5555 บาทเป็นเวลา 3 วันทำการขึ้นไปในช่วง 6 เดือนนับจากวันที่จดทะเบียน

 และอีกหนึ่งกองโดยบลจ. ทิสโก้ คือ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#5" มีเงื่อนไขคล้ายกับกองแรกคือเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10.50 บาทในระยะเวลา 5 เดือน โดยทั้งสองกองทุนเป็นการลงทุนสินทรัพย์ในประเทศ

“ชวินดา หาญรัตนกูล” กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากกองทุนเปิดกรุงไทย ทริกเกอร์ ฟันด์ 3 (KT-TRIG3) เปิดขายตั้งแต่วันที่ 17 – 19 มี.ค.ที่ผ่าน มีมูลค่ากองทุนแล้ว166ล้านบาท ถือว่าได้ตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีในสถานการณ์แบบนี้ 

 เนื่องจาก กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมผสม มีเป้าหมายผลตอบแทน 5% ภายในระยะเวลา 6 เดือน มีนโยบายกระจายเงินลงทุนของกองทุนที่หลากหลาย และจะเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่อิงกับปัจจัยภายในประเทศ (Domestic) ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจไทย การฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุน เลือกลงทุนรายหลักทรัพย์โดยให้ความสำคัญกับระดับราคาหุ้นที่สอดคล้องกับแนวโน้มผลประกอบการที่มีการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศและปัจจัยพื้นฐาน

 รวมถึงหุ้นที่มีการขยับขึ้นของราคาไม่มาก (Laggard) และหุ้นที่มีการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน (Turn around) ซึ่งจับจังหวะการลงทุนโดยพิจารณาจากระดับราคาหุ้นที่จะเข้าลงทุนเพื่อมุ่งหวังให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี้ชี้วัด เลือกลงทุนหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีราคาตามปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม

ด้าน “สาห์รัช ชัฏสุวรรณ” ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า หลังจากการเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#5 (TEQT5M5) ตั้งแต่วันที่17-19มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ในแง่ของจำนวนรายของผู้ถือหน่วยลงทุนถือว่าดี แต่ในแง่ของจำนวนเม็ดเงินอาจไม่ได้เข้ามามาก เหมือนช่วงปกติ 

ทั้งนี้ ก็เป็นไปตามที่เราคาดไว้ เพราะจังหวะแบบนี้นักลงทุนยังคงมีความกังวลอยู่ และอาจยังรอดูสถานการณ์ เนื่องจากสถานาการณ์การลงทุนยังมีความไม่ชัดเจน เรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน ลูกค้าบางรายอาจยังขอดูความชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนที่ติดหุ้น และไม่มีสภาพคล่องในมือเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ในระดับราคาหุ้นไทยอยู่ที่ 1,000 จุดต้นๆ มองว่าดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงจนไปต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานมากพอสมควร ราคาหุ้นเมื่อเทียบกับมูลค่าก็ถือว่าถูกมาก และเรามองว่า EPS ติดลบแล้ว ราคาหุ้นไทยก็ยังน่าสนใจอยู่ และน่าจะเริ่มเข้าสะสมได้แล้ว

นอกจากนี้ การที่เราเดินหน้าออกทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อส่งสัญญาณและสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนว่า ขณะนี้หุ้นไทยเหมาะแล้วที่จะเริ่มเข้าสะสม

 

“ชญานี จึงมานนท์”  นักวิเคราะห์กองทุนอาวุโส ประจำประเทศไทย บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลงมามากในปีนี้ ทำให้ถูกมองว่าตลาดมีอัพไซด์ หรืออาจมีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวขึ้นได้แรงและเร็วภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี  ซึ่งจะเกิดขึ้นได้หากตลาดมีความผันผวนมาก หรือมีปัจจัยที่ทำให้ตลาดฟื้นตัว เช่น การคลี่คลายหรือการบรรเทาลงของโรคระบาด ที่จะทำให้มองเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว

อย่างไรก็ตามแนะนำว่า นักลงทุนควรคำนึงถึง “ความเสี่ยง” หากตลาดยังคงอยู่ในช่วงซบเซายาวกว่าที่คาด รวมทั้งคำนึงถึงเงื่อนไขที่ไม่สามารถไถ่ถอนเงินลงทุนในช่วงเวลาที่กำหนดได้

ปัจจุบันกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในประเทศมีจำนวน 22 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมราว 3,500 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนก.พ. 2563 ลดลงจากสิ้นปี 2561 ประมาณ 16% ภาพรวมผลตอบแทนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ยังคง “ติดลบ” ซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาดปัจจุบัน และส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่เปิดในช่วงปี 2556-2560 ที่ยังไม่เข้าเงื่อนไขเลิกกองทุน

158496928080