‘นิติ โอสถานุเคราะห์’ ควัก 1.39 พันล้าน ทุ่มซื้อหุ้น ‘MINT’

‘นิติ โอสถานุเคราะห์’ ควัก 1.39 พันล้าน ทุ่มซื้อหุ้น ‘MINT’

“นิติ โอสถานุเคราะห์” ทุ่ม 1.39 พันล้านบาท ทยอยซื้อหุ้น 'ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล' ต่อเนื่องตั้งแต่ 2-16 มี.ค. ด้านนักวิเคราะห์ ประสานเสียง เชียร์ ซื้อ หลังปีนี้ราคาหุ้นร่วงหนักกว่า50%  อยู่ในเกณฑ์ถูกเหมาะลงทุนถือยาว-คาดโควิด-19 คลี่คลายครึ่งปีหลัง

จาการรวบรวมข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59)สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในปีนี้พบว่า นายนิติ โอสถานุเคราะห์ กรรมการ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ซื้อหุ้น MINT ตั้งแต่วันที่ 2 -16 มี.ค.2563 รวม 52.43 ล้านหุ้น ช่วงราคา20.26- 29.06บาท รวมมูลค่า1,390.71 ล้านบาท ดังนี้ วันที่2 มี.ค.ซื้อจำนวน 4.04 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ28.02 บาท วันที่3มี.ค. ซื้อ4.5 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ29บาท วันที่ 4 มี.ค.ซื้อ1.55 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 29.06บาท วันที่ 5 มี.ค.ซื้อ 5.8 ล้านหุ้น ราคาห้นละ 28.96 บาท

วันที่ 6 มี.ค.ซื้อ 7 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 28.55 บาท วันที่ 9 มี.ค.ซื้อ 6.7 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 27.18 บาท วันที่ 10 มี.ค.ซื้อ 8.75 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ  27.18 บาท  วันที่ 11 มี.ค.ซื้อ 2.650 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 27.05 บาท วันที่12 มี.ค. ซื้อ 2.69 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 23.38 บาท วันที่13 มี.ค.ซื้อ 3.46 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 20.90 บาท และวันที่16 มี.ค.ซื้อ 5.10 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 20.26 บาท 

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการ อาวุโสฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับคำแนะนำหุ้น MINT เป็นซื้อ จากเดิมเป็นถือ เนื่องจากราคาหุ้นปีนี้ปรับตัวลดลง57%สะท้อนปัจจัยลบต่างๆไปมากแล้ว ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)ที่คาดมีผลทำโรงแรมในสเปนและยุโรปที่มีสัดส่วนรายได้ 19% และ 64%ของธุรกิจโรงแรมทั้งหมด โดยบริษัทคาดว่ารายได้ธุรกิจโรงแรมปีนี้ของMINTจะลดลง 50 %จากปีก่อน โดยคาดว่ากำไรสุทธิรวมปีนี้ลดลง48 %จากปีก่อน เพราะเชื่อว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 จะคลี่คลายภายในครึ่งปีแรก

สำหรับราคาหุ้นปีนี้ที่ปรับตัวลดลงแรงนอกจากปัจจัยโควิด-19 แล้ว นักลงทุนกังวลเรื่องอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1.33 เท่า ซึ่งอาจจะไปแตะระดับที่แจ้งไว้กับธนาคารพาณิชย์จะไม่ให้เกิน1.75 เท่า ทำให้บริษัทมีปัญหาสภาพคล่อง จากปีนี้ผลการดำเนินงานลดลง แต่บริษัทคาดว่า D/Eปีนี้จะไม่ไปแตะระดับดังกล่าว เพราะคาดMINTยังมีกำไรสุทธิแม้จะปรับตัวลดลง และMINTมีแผนคืนหนี้ระยะสั้นในปีนี้รวมประมาณ5 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้D/E ลดลงเหลือ 1.15 เท่า ดังนั้นราคาหุ้นปัจจุบันที่ลดลงมาเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสม เพราะหากการโควิด-19 คลี่คลายราคาหุ้นจะฟื้นตัวได้เร็ว โดยให้ราคาเหมาะสมปีนี้ที่22.60 บาท

นายภาสกร ลินมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ราคาหุ้น MINT ปรับตัวลดลงแรงสะท้อนข่าวลบไปมากแล้วและถือเป็นระดับที่ถูก นักลงทุนสามารถทยอยซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาวได้ เพราะเชื่อว่าการแพร่โควิด-19ในยุโรปน่าจะใกล้ถึงจุดสูงสุด(พีค)แล้ว และคลี่คลายได้ในครึ่งปีหลัง ซึ่งหากสถานการณ์คลี่คลายได้จะหนุนทำให้ราคาหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นได้เร็ว โดยให้ราคาเหมาะสมปีนี้ที่ 32.50 บาทต่อหุ้น

ส่วนรายได้ปีนี้บริษัทคาดว่าอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท ลดลง 8 % จากปีก่อน ขณะที่คาดกำไรอยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท ลดลงประมาณ68% จากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบแพร่ระบาดโควิด-19ที่มีผลกระทบมากในช่วงครึ่งปีแรกแต่จะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง แต่หากแพร่ระบาดโควิด-19ลากยาวกว่านั้นมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับประมาณการลงอีกครั้ง