'ปิดทองหลังพระ'ร่วมส่วนราชการนราธิวาสทำแผนเศรษฐกิจชุมชนตามแนวพระราชดำริ

'ปิดทองหลังพระ'ร่วมส่วนราชการนราธิวาสทำแผนเศรษฐกิจชุมชนตามแนวพระราชดำริ

สถาบันปิดทองหลังพระฯ ร่วมกับส่วนราชการ จ.นราธิวาส ดันการจัดทำแผนเศรษฐกิจชุมชนตามแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนจ.นราธิวาส ช่วยเพิ่มรายได้ชุมชน

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการจัดประชาคมคืนข้อมูลเศรษฐกิจ สังคมและจัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้านโคกยามูต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส โดยภาคส่วนราชการได้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ บูรณาการการทำงานโดยน้อมนำองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ หรือ “ศาสตร์พระราชา” มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาตามสภาพสังคมและภูมิศาสตร์เพื่อให้เกิดการพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ที่ผ่านมาให้มีกิจกรรมเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างรายได้เสริมให้กับราษฎรในพื้นที่ เช่น กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่แปลงใหญ่ พื้นที่ 66 ไร่ และกลุ่มวิสาหกิจหัตถกรรมกระจูด โดยในปี 2560 – 2561ซึ่งผลสัมฤทธิ์การประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริ มีการเก็บข้อมูลแล้วสามารถสร้างรายได้ 968,804 บาทให้กับชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยมีกิจกรรมที่มีการทำเกษตรสมัยใหม่ในแปลงสาธิต การฉีดวัคซีนปศุสัตว์ป้องกันโรค การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน

สำหรับกิจกรรมที่มีการดำเนินการต่อเนื่องในปี 2563 เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับท้องถิ่นได้แก่ การส่งเสริมพื้นที่เกษตรปลอดภัยในพื้นที่ 66.1 ไร่ และขยายผล 84 ไร่ 73 ครัวเรือน ในกลุ่มเกษตรกร 45 ราย ลดรายจ่าย 14,424 บาท แบ่งปัน 9,440บาท สร้างรายได้ 60,215 บาท ส่งเสริมการปลูกพืชผักตามฤดูกาล เช่น แตงโม ข้าวโพดหวาน อ้อย ฯลฯ สร้างรายได้ 463,681 บาท โดยในปี 2563 กลุ่มมีเป้าหมายพัฒนาคุณภาพสินค้าการเกษตรพืชผัก ให้ได้รับมาตรฐานที่ครอบคลุมการผลิตสินค้าเกษตรอย่างครบวงจร (GAP)

นอกจากนี้สถาบันได้ส่งเสริมกิจกรรมรวมกลุ่มและดูแลความเป็นอยสู่มาชิก ได้แก่ กลุ่มกระจูดนาราบาฮาเกีย สมาชิก 27 ครัวเรือน กลุ่มสรุปการดำเนินงานร่วมกับคณะกรรมการของ หมู่บ้านเป็นประจำทุกเดือนสร้างรายได้ 337,045 บาท ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นงาน หัตถกรรมสานกระจูด อบรมพัฒนา ฝีมือ จดทะเบียนวิสหกิจชุมชน กลุ่ม กระจูดนาราบาฮาเกีย และเพิ่มการพัฒนาระบบน้ำและปรับภูมิทัศน์ พื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

“การจัดเวทีประชาคมคืนข้อมูลในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อคืนข้อมูลในด้านเศรษฐกิจ สังคมและข้อมูลทางกายภาพที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ทำการสำรวจรวบรวม โดยไม่อยากให้ทำคนเดียวหรือต่างคนต่างทำ อยากให้ทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการ เพื่อให้เป็นแกนและเป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาอื่นๆ เพื่อให้ชาวบ้านโคกยามูได้ร่วมตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง พร้อมกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ระดมความคิดและชูปัญหาที่แท้จริงของชุมชน เพื่อนำมารวบรวมและจัดทำแผนในการพัฒนาชุมชนต่อไป โดยมีสถาบันฯ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา ตามยุทธศาสตร์พระราชทานเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งเป็นหัวใจต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน”

ด้านนายกูเซ็ง ลอเซ็ง ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านโคกยามูเป็นตัวแทนในการรวบรวมและนำเสนอปัญหาและความต้องการของคนชุมชนต่อที่ประชุมใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย ปัญหาดินและน้ำที่มีความเป็นกรด เป็นดินทราย ไม่อุ้มน้ำและธาตุอาหารต่ำ ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก การคัดแยกและแหล่งรวบรวมขยะที่ถูกสุขลักษณะเป็นรูปธรรม รวมถึงสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ถนนและไฟฟ้า และตลาดในการรองรับผลิตทางการเกษตร