IP - ซื้อ

IP - ซื้อ

คาดกำไรปี 63 เติบโต 32% จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • ผู้พัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชะลอวัยทั้งคนและสัตว์เลี้ยง : บริษัทดำเนินธุรกิจพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับคนและผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ (ผ่านการถือหุ้นในบริษัทอินเตอร์เวทต้า (ผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์) 55% และการถือหุ้นในบริษัทอินเตอร์เพ็ททรินา (อาหารสัตว์เลี้ยง) 60%) โดยมีสัดส่วนรายได้ปี 2562 อยู่ที่ 72% และ 38% ตามลำดับ โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือ ผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับคน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ซินไบโอติก ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ผลิตภัณฑ์โอเมก้า 3 ผลิตภัณฑ์รวมสารอาหารเพื่ออวัยวะสำคัญ ผลิตภัณฑ์รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบ และผลิตภัณฑ์วิตามินรวม
  • รายงานกำไร 4Q62 ที่ 11.3 ลบ. –24%QoQ แต่ +510%YoY : รายได้ 4Q62 เติบโต 9%YoY สู่ 101 ลบ.โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย และผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่เติบโต ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 58.8% ในไตรมาสก่อนสู่ 60.4% เนื่องจากยกเลิกจำหน่ายสินค้าให้กับ NABOTA ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัท ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวลงจาก 37.1% ในไตรมาสก่อนสู่ 35.4% แต่เมื่อพิจารณาเป็นจำนวนเงินทรงตัวที่ 23 ลบ. ส่งผลให้บริษัทรายงานกำไร 4Q62 ที่ 11.3 ลบ. และรายงานรายได้ปี 62 และกำไรปี 62 ที่ 376 และ 43.5 ลบ. เติบโต20% และ 46.5%YoY
  • คาดการณ์กำไรปี 2563-2564 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) 29%ต่อปี จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายตลาดเข้าสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่เพิ่มขึ้น : ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรปี 2563 และ 2564 อยู่ที่ราว 3 ลบ. และ 72.4 ลบ. เติบโต -32%YoY และ 26%YoY ตามลำดับ โดยในปี 2563 คาดว่าจะมีรายได้ราว 464 ล้านบาท +25% YoY เติบโตจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่เพิ่มขึ้นส่งผลให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง อีกทั้งมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 9 ผลิตภัณฑ์ทั้งของคนและสัตว์เลี้ยง อาทิ ผลิตภัณฑ์บำรุงตับ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และProbiotics วัคซีนสำหรับสัตว์ อาหารสุนัขและแมวที่เป็นโรคไต และโรคภูมิแพ้ ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นจาก 57.6% ในปี 2563 เนื่องจากมีการยกเลิกการขายสินค้า NABOTA ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายทรงตัวที่ระดับ 32.5% ส่งผลให้เราคาดว่าปี 2563 จะมีกำไรราว 57.3 ล้านบาท +32%YoY ขณะที่ปี 2564 เราคาดว่ารายได้จะเติบโตสู่ 557 ล้านบาท +20%YoY จากการรับรู้รายได้จากสินค้าที่เปิดตัวในปี 2563 เต็มปีและมีการออกสินค้าใหม่ในปี 2564 อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีกำไรราว 72.4 ล้านบาท +26%YoY
  • แนะนำ “ซื้อที่ราคาเหมาะสม 5.60 บาท: ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี Prospective P/E Ratio โดยอ้างอิง P/E Ratio ของ MEGA ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกันที่ 20 เท่า และคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับปี 2563 ที่ 0.28 บาทต่อหุ้นได้ราคาเหมาะสม 5.60 บาทต่อหุ้น แต่ยังคงสูงกว่าราคาปิดล่าสุดและคาดหวังอัตราเงินปันผล 3.3 %ต่อปี เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ

ความเสี่ยง : การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ล้าช้า

              : เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่าย