"รีบาวด์"ในกรอบจำกัด

"รีบาวด์"ในกรอบจำกัด

ดัชนีวานนี้ปิดลดลงเพียงเล็กน้อย แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ โดยภาคเช้าดัชนีปิดลบกว่า 30 จุด แต่เกิดแรงรีบาวด์ในภาคบ่าย

ตามทิศทางตลาดโซนยุโรปที่ขานรับมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,044.19 จุด (-3.96 จุด) Volume 6.2 หมื่นลบ. ต่างชาติ -3,125.45 ลบ. TFEX Net -15,430 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 188.27 จุด +0.95% หลังจากรัฐบาลสหรัฐและธนาคารกลางทั่วโลกออกมาตรการฉุกเฉินบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI บวกแรง

+สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 4.85 ดอลลาร์ +23.8% ปิดที่ 25.22 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเตรียมซื้อน้ำมัน 30 ล้านบาร์เรลเข้าคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR)

+เฟดทำข้อตกลงสว็อปกับธนาคารกลางหลายแห่งอัดฉีดดอลลาร์ทั่วโลก แก้ภาวะตึงตัว

+ BoE ประชุมฉุกเฉินลดดอกเบี้ยเหลือ 0.1% เพิ่มวงเงิน QE อีก 2 แสนล้านปอนด์รับมือโควิด-19

-เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีภาวะธุรกิจมิด-แอตแลนติกเดือนมี.ค.ต่ำสุดรอบ 3 ปี

-สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานพุ่งสูงสุด 2 ปีครึ่ง จากพิษโควิด-19

-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วง 26.63 จุด -0.98% ส่วนดัชนีนิกเกอิลดลง 173.72 จุด -1.04% กังวลผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าลดลงเช่นกัน

-ราคาทองคำตอบสนองเชิงบวกต่อการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดเงินเข้าระบบ

-ธนาคารกลางจีน (PBOC) คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ 4.05% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ 4.75% สวนทางคาดการณ์ปรับลดตามทิศทางธนาคารกลางทั่วโลกที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound ในกรอบจำกัด แม้นักลงทุนยังกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรง +23% จากข่าวสหรัฐเตรียมซื้อน้ำมันจำนวน 30 ล้านบาร์เรลเพื่อกักเก็บในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ จะเป็นตัวหนุนตลาดในวันนี้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,030 -1,075 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

RML Analyst Meeting : PBV ต่ำ มุมมอง Neutral

ปี 62 มีรายได้รวม 3,421 ล้านบาท รายได้หลัก 84% จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เหลืออีก 16% จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มและอื่นๆ โดยมีรายการพิเศษรวม 203 ล้านบาทที่เป็นกำไรจากการขายเงินลงทุน ขายที่ดินรอการพัฒนา และขายอสังหา ริมทรัพย์เพื่อการลงทุน กำไรสุทธิ 79 ล้านบาทและกำไรปกติ 60 ล้านบาท backlog ปลายปีเท่ากับ 8,010 ล้านบาท สินค้าคงเหลือมูลค่าเกือบ 12,000 ล้านบาท ส่วนที่พร้อมโอนมีมูลค่าเกือบ 3.9 พันล้านบาท

แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H63 มีแนวโน้มดีกว่า 1H63 จากกำหนดโอนโครงการเดอะลอฟท์-สีลมอยู่ในช่วง 2H63 ซึ่งอาจมียอดโอนต่ำกว่าเป้าและธุรกิจร้านอาหารที่ได้มียอดขายลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนแนวโน้มรายได้ทั้งปี 63 น่าจะต่ำกว่าปี 62 ปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวคอนโดฯ 1 โครงการ อนาคตเดินหน้าแผนสร้างรายได้ประจำสัดส่วน 30% ของรายได้รวมภายในปี 2566 ในโครงการร่วมทุนสร้างอาคารสำนักงาน One City Centre (OCC) คาดเสร็จปี 2564  โรงแรม 1,000 ห้องภายในปี 2565 และร้านอาหารในอาเซียน

ความเห็น ราคาปัจจุบัน –51%YTD ซื้อขายที่ระดับ PBV 0.36 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 0.73 เท่า PE 26.3 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 9 เท่า yield 3% ฝ่ายวิจัยมีมุมมอง Neutral

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากประกาศแพร่ระบาดระดับ 3 (MAKRO BJC CPALL TU TFMAMA)
  • หุ้นได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการทำงานที่บ้าน (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
  • ประชาชนสนใจซื้อกรมธรรม์ COVID-19 มากขึ้น เป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่ม

หุ้นมีข่าว   

·          ประเด็นบวก PTTEP PTTGC PTT TOP น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $4.85 รับข่าวสหรัฐเตรียมซื้อน้ำมันเข้าคลังสำรอง แบงก์ชาติทั่วโลกร่วมมือสู้โควิด-19 (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         +/- IVL (Bloomberg Consensus 35.17)  ชะลอแผนสร้างรง.PTA-PET ในสหรัฐหลังประเมินค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากคาดเล็งปรับประสิทธิภาพก่อน (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         ประเด็นลบกลุ่มรถยนต์ ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ก.พ. 63 ลดลง 5.33% มาที่ 95,191 คัน, ปรับลดเป้าผลิตเพื่อส่งออก-ขายในปท.ปีนี้เหลือ 1.9 ล้านคัน (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         STPI (Bloomberg Consensus 3.74) อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน วงเงิน 1 พันลบ. เริ่ม 3 เม.ย.-2 ต.ค.63 (ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         SKR อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงิน 330 ลบ. หรือคิดเป็นราคาเฉลี่ย 4.4 บาทต่อหุ้น ช่วง 20 เม.ย.-19 ต.ค. (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         EKH อนุมัติให้ใช้เงินสูงสุด 30 ลบ. ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น หรือ 10% เริ่ม 3 เม.ย.-2 ต.ค.63 (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         TMILL (ถือรับปันผล ราคาเหมาะสม 3.36) ปลื้มยอดขาย 2 เดือนแรกพุ่ง ออเดอร์ลูกค้ากลุ่ม SMEs ไหลเข้าเพียบ แย้มอยู่ระหว่างเจรจาต่อสัญญาซื้อขายอีกหลายราย ใส่เกียร์อัพกำลังการผลิตใกล้แตะ 80% ตามเป้า มองการระบาดโควิด-19 ไม่กระทบ เร่งปั๊มยอดขายเติบโตไม่น้อยกว่า 5% (ที่มาทันหุ้น)

·          (+) JAS (Bloomberg Consensus 4.75 บาท) รับผลบวกโควิด-19 แพร่ระบาด ดันลูกค้า 3BB เพิ่มขึ้น 15-20% ขณะที่ 23 มี.ค.นี้ JAS จะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนรองรับการใช้สิทธิ JAS-W3 พร้อมจับตาผู้ถือหุ้นใช้สิทธิแปลง JAS-W3 วันที่ 31 มี.ค.63 ในอัตรา 1 หน่วย ได้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ 1.192 หุ้น ที่ราคาใช้สิทธิ 3.605 บาท/หุ้น เพื่อรับปันผลหุ้นละ 1.26-1.50 บาท(ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) TQM (Bloomberg Consensus 73.00 บาท) ราคาหุ้นวิ่งรับอานิสงส์ไวรัสมฤตยูระบาดหนัก วานนี้ปิดชนซีลลิ่ง 15% โบรกฯคาดกรมธรรม์โควิด-19 แตะ 1,100,000 กรมธรรม์ ดันกำไรไตรมาสแรกพุ่งกระฉูด ขณะที่วันนี้ได้เข้าคำนวณดัชนี FTSE เป็นครั้งแรก ราคาเป้าหมาย 73 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) TMB (Bloomberg Consensus 1.58 บาท) แบงก์ทหารไทยได้พันธมิตรใหม่ พรูเด็นเชียล” เข้ามาเสียบแทน FWD ส่งผลให้ไม่สูญเสียรายได้ค่าฟี 1.3 หมื่นล้านระหว่างเปลี่ยนผ่าน พร้อมทยอยบันทึกรายได้ภายในปีนี้ ดันกองทุนขั้นที่ 1 เพิ่มขึ้นเป็น 14% (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) MGT (ราคาเหมาะสม 2.66 บาท) คาดยอดขายบริษัทลูก "เมกาเคมพลัส" ปีนี้พุ่งขึ้นเท่าตัว หลังเอทานอลซึ่งเป็นส่วนผสมเจลล้างมือขายดิบขายดี เล็งนำเข้าสินค้าที่สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 มาจำหน่ายเพิ่ม คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ ด้านผู้บริหารเชื่อผลงานไตรมาสแรกสดใส ตั้งเป้ายอดขายปีนี้แตะ 950 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+) XO (Bloomberg Consensus - บาท) ทนราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากไม่ไหว ประกาศซื้อหุ้นคืนเป็นรายที่ 18 ในปีนี้ ในวงเงิน 135 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน - 1 ตุลาคม 2563 หวังสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)