ไทยรับอานิงสงค์คว้าโอกาสส่งออก หลังมาเลเซียปิดประเทศขาดน้ำยางข้นผลิตถุงยางมือ

ไทยรับอานิงสงค์คว้าโอกาสส่งออก หลังมาเลเซียปิดประเทศขาดน้ำยางข้นผลิตถุงยางมือ

มาเลเซียปิดประเทศ หนีโควิด ทำสต็อกน้ำยางขาดเหลือทำถุงมือแค่ 3 วัน   ด้านกยท.เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งน้ำยางข้นให้มาเลเซีย

นายขจรจักษณ์ นวลพรหมสกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ในประเทศมาเลเซียซึ่งกำลังทวีความรุนแรง ทำให้ประเทศมาเลเซียควบคุมการเข้าออกประเทศ ส่งผลให้มีการปิดด่านนำเข้าและส่งออกตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค. 2563 ในขณะที่มาเลเซียเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกถุงมือยางรายใหญ่ของโลก มีการนำเข้าวัตถุดิบน้ำยางข้นจากประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ามาเลเซียจะปิดประเทศแต่ความต้องการวัตถุดิบน้ำยางข้นเพื่อใช้ผลิตถุงมือยางยังคงมีอยู่

เบื้องต้นสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางของมาเลเซียกำลังเจรจากับรัฐบาลของมาเลเซียเพื่อบรรเทาผลกระทบในอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือ จากการประเมินสต็อกวัตถุดิบที่ใช้จะผลิตในขณะนี้ จะสามารถได้เพียง 3 วันเท่านั้น โดยต้องการนำเข้าน้ำยางข้นจากประเทศไทยเพิ่มเติมเพื่อผลิตถุงมือให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ ฃ

158461452764

นายขจรจักษณ์ กล่าวว่า  ในส่วนของ กยท.ได้เร่งประสานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางพารา โดยเฉพาะสมาคมน้ำยางข้นไทย เพื่อหารือกับกงสุลมาเลเซียในการหาแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งประเทศไทยพร้อมให้ความร่วมมือในทุกด้าน เพื่อส่งน้ำยางข้นที่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ผลิตถุงมือให้กับประเทศมาเลเซียต่อไป

สำหรับสถานการณ์ยางพาราในเดือน มี.ค. จากกการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค ราคายางอาจได้รับปัจจัยกดดันจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ( PMI ) ภาคการผลิตของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีนอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนอยู่ในสภาวะหดตัว ค่าเงินบาทและน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวน

รวมทั้งการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น แต่การส่งออกมีน้อย อย่างไรก็ตามจากปริมาณยางออกสู่ตลาดลดลง เนื่องจากสภาวะแห้งแล้ง ใกล้เข้าสู่ช่วงปิดกรีด และสัญญาฯราคายางในตลาดล่วงหน้าต่างประเทศมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น รวมทั้งสต็อกยางปรับตัวในระดับต่ำ และ ความต้องการถุงมือยางมีแนวโน้มมากขึ้น เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคายางในเดือนนี้มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นตาม นอกจานี้สถานการณ์แพระระบาดโรคโควิด19 ยังคงกระจ่ายไปทั่วโลก จึงควรติดตามสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด

ส่วนราคายางในวันที่ 19 มี.ค. ยางแผ่นรมควันปรับตัวตามความต้องการของผู้ประกอบการภายในประเทศ และปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย เนื่องเข้าสู่ช่วงปิดกรีด ราคากลางเปิดตลาด ประจำวันนี้อยู่ที่ 43.19 บาทต่อกก. โดยปิดตลาดสูงสุด ณ 3 ตลาดกลาง ได้แก่ ตลาดกลางสงขลา ตลาดกลางสุราษฎร์ธานี และตลาดกลางนครศรีธรรมราช ราคาอยู่ที่ 43.20 บาทต่อกก

นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กยท. การแพร่ระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราใน 10 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดนราธิวาสที่มีการระบาดมากที่สุด ประมาณ 700,000 ไร่ ส่งผลให้ต้นยางมีใบร่วงรุนแรง สภาพเสื่อมโทรม ผลผลิตน้ำยางทยอยลดลงจนต้องหยุดกรีดยาง ส่งผลเสียหายทั้งเชิงเศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกษตรกรขาดรายได้ เกิดความไม่มั่นคงในอาชีพการทำสวนยางพารา จึงเป็นหน้าที่ของการยางแห่งประเทศไทยที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่ตระหนักและให้ความสำคัญ เร่งดำเนินมาตรการต่างๆ ในการช่วยกันแก้ปัญหาการระบาดของโรค การสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะอาการของโรค วิธีการป้องกันกำจัดโรคที่เกษตรกรทำได้ รวมถึงให้การช่วยเหลือและสนับสนุนภาคเกษตรกรในทุกทาง เพื่อป้องกันและกำจัดโรคนี้

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านธุรกิจและปฏิบัติการกล่าวว่า สำหรับการจัดงาน “คืนน้ำยางกลับสู่ต้น” ภายใต้โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์โรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในครั้งนี้ มีการมอบเงินสนับสนุนเพื่อจัดซื้อเครื่องพ่นยาแรงดันสูงพร้อมอุปกรณ์ และสารป้องกันและจำกัดเชื้อรา ให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ จ. นราธิวาส มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 945,450 บาท พร้อมทั้งให้ความรู้บรรยายการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ “คืนน้ำยางกลับสู่ต้น” นอกจากนี้ กยท. ยังจัดคลีนิคยางเคลื่อนที่ให้ความรู้และคำแนะนำในการดูแลสวน