อย. เตือนเกษตรกร อย่าหลงเชื่อบุคคลหรือบริษัท อ้างช่วยขออนุญาตปลูกกัญชาแทนได้

อย. เตือนเกษตรกร อย่าหลงเชื่อบุคคลหรือบริษัท อ้างช่วยขออนุญาตปลูกกัญชาแทนได้

อย. เตือนเกษตรกร อย่าหลงเชื่อบุคคลหรือบริษัทติดต่อผ่านเกษตรกรว่าสามารถขออนุญาตปลูกกัญชาได้ และเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ย้ำ ขณะนี้กฎหมายอนุญาตให้หน่วยงานรัฐขออนุญาตปลูกร่วมกับเกษตรกรที่รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชนเท่านั้น

ภญ. สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีบุคคลหรือบริษัทติดต่อไปยังวิสาหกิจชุมชนหรือกลุ่มเกษตรกรว่า สามารถช่วยขออนุญาตปลูกกัญชาแทนได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเตือนไปยังเกษตรกรว่าอย่าหลงเชื่อ เนื่องจากพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดว่า ใน 5 ปีแรก อนุญาตให้เฉพาะหน่วยงานของรัฐ หรือเกษตรกรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือวิสาหกิจเพื่อสังคมหรือสหกรณ์การเกษตรที่จดทะเบียนตามกฎหมายร่วมกับหน่วยงานของรัฐ สามารถขออนุญาตปลูกกัญชาได้  ทั้งนี้ อย. ยินดีให้คำแนะนำในการเตรียมตัวเพื่อขออนุญาตปลูกกัญชา ผู้ที่สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่กองควบคุมวัตถุเสพติด หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ในวันและเวลาทำการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น หรือศึกษาข้อมูลแนวทางการพิจารณาอนุญาตและแนวทางการปฏิบัติสำหรับการจัดเตรียมสถานที่สำหรับผู้ขออนุญาตปลูกได้ทางเว็บไซต์ http://cannabis.fda.moph.go.th/form/form-farm/

รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า นโยบายกัญชาทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขมุ่งหวังให้เกษตรกรในประเทศเป็นต้นน้ำในการขับเคลื่อนและสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งภายใน 5 ปีแรกที่วิสาหกิจชุมชนจะต้องดำเนินการร่วมกับผู้ขออนุญาตที่เป็นหน่วยงานรัฐเพื่อปลูกกัญชาให้ได้มาตรฐานทางการแพทย์ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรกับหน่วยงานสนับสนุนในการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนไทยทุกคนได้รับประโยชน์จากการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน รวมทั้งสร้างความมั่นคงด้านยาและเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
ในอนาคต