ทนายหารือ 'มาดามเดียร์' หลังศาลยกฟ้อง 'อนุทิน' คดีหมิ่น

ทนายหารือ 'มาดามเดียร์' หลังศาลยกฟ้อง 'อนุทิน' คดีหมิ่น

ศาลชี้โพสต์เฟซบุ๊ค "อนุทิน" แค่ความเห็นไม่มีตัดต่อเปลี่ยนถ้อยคำ-ไม่ยืนยันข้อเท็จจริง "ช่อ" อดีตโฆษก อนค. แถลงปมถือหุ้นสื่อ ทนายรอหารือ "มาดามเดียร์" อุทธรณ์หรือไม่

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เวลา 09.00 น. ศาลนัดฟังคำสั่งคดีชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่าจะรับ-ไม่รับฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ. 3127/2562 ที่น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา 326 และ 328

กรณีนำข้อความ ที่ น.ส.พรรณิการ์ หรือช่อ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่แถลงข่าวกล่าวหา น.ส.วทันยา มีหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน มาโพสต์เผยแพร่ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุข้อความ "เชียร์ช่อ" โดยคำฟ้องระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 พ.ย.62 น.ส.พรรณิการ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรค อนค. แลโฆษกพรรค ขณะนั้น จัดแถลงข่าว ณ ทำการพรรค

ซึ่งมีตอนหนึ่งระบุว่า "ประเด็นร้อนแรงจนทำให้เกิดการถกเถียงในสังคมคือ การเป็นเจ้าของสื่อของนักการเมือง ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 ห้ามไม่ให้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งถือครองหุ้นสื่อโดยเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญก็คือไม่ต้องการให้นักการเมืองครอบครองสื่อเพื่อใช้สื่อนั้นเป็นประโยชน์แก่ตนเอง และเป็นโทษแก่ผู้ที่เป็นศัตรูผู้ที่ถือหุ้นดังกล่าว แต่ในประเทศไทย มีกรณีที่นักการเมืองมีความเกี่ยวพันเป็นเจ้าของสื่อที่ชัดเจนปรากฏและทราบกันดี แต่ไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับนักการเมืองผู้นั้นได้ เนื่องจากนักการเมืองคนนั้นคือคุณวทันยา เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารของเครือเนชั่นและให้ผู้ที่เป็นสามีคือ คุณฉาย บุนนาค ดำรงตำแหน่งผู้บริหารของเนชั่นแทน..." ซึ่งการแถลงข่าวดังกล่าวเป็นการใส่ความโจทก์ที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น

โดยต่อมาโจทก์ได้ยื่นฟ้อง น.ส.พรรณิการ์ฯ ต่อศาลอาญา เป็นคดีหมายเลขดำ อ.3095/2562 ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ขณะที่วันเดียวกัน 18 พ.ย.62 เวลากลางคืน ประมาณ 20.19 น. จำเลยที่เป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า "Anutin Charnvirakul" ได้นำข้อความและภาพจากสื่อมวลชนที่นำเสนอการแถลงข่าวของ น.ส.พรรณิการ์ และภาพในลักษณะ น.ส.พรรณิการ์ ถือเอกสารระหว่างการแถลงข่าว มาลงนเฟซบุ๊กของจำเลย อันเป็นการกระทำหวังผลให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น

นอกจากนี้ จำเลยยังได้แสดงความเห็นไว้ในเฟซบุ๊กด้วย เช่น "เชียร์ช่อครับ" (ซึ่งช่อในที่นี้เป็นที่เข้าใจรับรู้และรับทราบโดยทั่วไปว่า หมายถึง น.ส.พรรณิการ์) โดยหลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าวไปแล้ว มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิจารณ์ต่อโจทก์ และตอบโต้ข้อความกันทำให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสีย ซึ่งจำเลยเป็นผู้การศึกษา มีตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หากจะตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องย่อมกระทำได้โดยง่าย ประกอบกับพรรค ภท. ที่จำเลยเป็นหัวหน้าพรรค และ พรรค พปชร.ที่โจทก์เป็น ส.ส.นั้นต่างเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จำเลยสามารถสอบถามข้อมูลจากคนสนิทของโจทก์ได้ ก่อนที่จะนำข้อความมาลงเฟซบุ๊ก ที่มีประชาชนเข้าติดตามอ่านและแสดงความคิดเห็นจำนวนหลายร้อยคน

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า จำเลยนำข้อความจากเฟซบุ๊กของน.ส.พรรณิการ์มาลงในระบบ แต่ไม่ได้มีการตัดต่อเปลี่ยนแปลง แม้จำเลยจะมีการแสดงความคิดเห็นตอบกลับแต่ไม่ถือเป็นการยืนยันว่าข้อความของ น.ส.พรรณิการ์เป็นข้อเท็จจริง ดังนั้นไม่เป็นการกระทำผิดตามคำฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องนี้

อย่างไรก็ดี ทนายความของ น.ส.วทันยา หรือมาดามเดียร์ ระบุว่า เรื่องผลคดีจะกลับไปหารือว่ายื่นอุทธรณ์ต่อไปหรือไม่ ซึ่งหากอุทธรณ์ต้องทำเรื่องส่งศาลภายใน 1 เดือน