หุ้นยุโรปปิดดิ่งต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี

หุ้นยุโรปปิดดิ่งต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี

หุ้นยุโรปปิดดิ่งต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี ขณะนลท.แห่ขายหุ้น เมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดดิ่งอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) โดยปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีการประกาศในช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถคลายความวิตกของนักลงทุนซึ่งกระหน่ำขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วง 3.92% ปิดที่ 279.66 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,754.84 จุด ลดลง 236.93 จุด หรือ -5.94%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,441.71 จุด ลดลง 497.39 จุด หรือ -5.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,080.58 จุด ลดลง 214.32 จุด หรือ -4.05%

ตลาดหุ้นยุโรปทรุดตัวลงอีกครั้งและมีแนวโน้มร่วงลงหนักที่สุดในเดือนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกว่าศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ย้ายจากจีนมายังยุโรป

ตลาดร่วงลงหลังนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า มาตรการปิดประเทศที่หลายประเทศในยุโรปกำลังดำเนินการอยู่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู) หดตัวลง 5%

นอกจากนี้ นางลาการ์ดระบุว่า การปิดประเทศในแต่ละเดือนจะทำให้อียูมีการขยายตัวลดลง 2.1% ส่วนการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจ อียูจะหดตัว 5% มาจากการตั้งสมมติฐานที่ว่าการปิดประเทศจะดำเนินไปเป็นเวลา 3 เดือน

ตลาดยังถูกกดดันจากการที่กิจกรรมทางด้านอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวในสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อยุโรปด้วย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการบินของสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์ของเจพี มอร์แกนระบุว่า ต้องใช้เวลาหลายปีในการฟื้นตัว

หุ้นแอร์บัสของฝรั่งเศส ดิ่งลง 22.2% และหุ้นซาฟรานซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของโบอิ้ง ดิ่งลงเกือบ 23% ขณะที่หุ้นโรลส์ รอยซ์ ร่วง 11%

หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซร่วงลงอย่างรุนแรงตามราคาน้ำมันดิบซึ่งปรับตัวลง เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยหุ้นเชลล์ ร่วง 10.66% และหุ้นบีพี ร่วง 9.99%