หน่วยงาน ทส. ดำเนินมาตราการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรน่า

ที่คลีนิคสัตว์ป่ากรมอุทยานฯ​ วันนี้ นายสัตวแพทย์​ ภัทรพล​ มณีอ่อน​ สัตวแพทย์ประจำกรมฯ​ นำทีมเจ้าหน้าที่ประจำคลินิคสัตว์ป่า​ เข้าฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ​ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์ป่าสู่คน​ ณ​ คลีนิกสัตว์ป่า​ ในกรมอุทยานฯ

นายสัตวแพทย์​ภัทรพล​ กล่าวว่า​ โดยปกติคลินิกสัตว์ป่า จะมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำตามรอบการปฏิบัติงาน​ แต่ในระยะนี้ หลังจากมีการเกิดโรคระบาดจากไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด 19 ทำให้ทางคลินิกสัตว์ป่า​ เพิ่มความถี่ในการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อมากขึ้น​ 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากสัตว์ป่าสู่คน​ เนื่องจากคลีนิคสัตว์ป่า เป็นสถานที่ที่มีการนำสัตว์ป่าของกลางมามอบเพื่อดูแลและตรวจสุขภาพ ก่อนส่งไปยังหน่วยงานในพื้นที่ต่างๆ​ 

ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการพิจารณาฉีดพ่นไปยังอาคารภายในหน่วยงานเพื่อเป็นการป้องกันตามมาตรการการป้องกันโควิด​ -​19​ ต่อไป

ในขณะเดียวกัน ที่หน่วยงานต่างจังหวัด อย่างเช่นที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่​ 9​ (อุบลราชธานี)​ ได้ดำเนินมาตรการเข้มข้นเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสตามนโยบายของกระทรวงฯ

โดยในการประชุมประจำเดือนของสำนักฯ ที่มีผู้อำนวยการส่วน หัวหน้ากลุ่ม หัวหน้าศูนย์ หัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ และบุคลากรในสังกัดเข้าร่วมประชุม ได้ใช้สถานที่เปิดโล่งในการประชุม​ โดยจัดเก้าอี้นั่งให้ห่างกันคนละ​ 1​ เมตร​ และผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนให้สวมหน้ากาก​อนามัย และใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ​ 

นอกจากนี้ ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์วัดไข้อินฟราเรดเทอร์โมมิเตอร์ จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ตรวจวัดไข้คัดกรองผู้เข้าร่วมประชุมก่อนเข้าร่วมประชุมทุกคน โดยผู้เข้าร่วมประชุมที่มีไข้อ่อนๆ​ ได้แยกกลุ่มให้นั่งต่างหาก​ 

นอกจากนี้ ยังได้สาธิตวิธีการป้องกันติดเชื้อ​ไวรัส​ Covid-19​ สำหรับการใช้รถยนต์ราชการ​ 

ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้ตั้งศูนย์ป้องกันและเฝ้าระวังภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด​ในหน้วยงานของกระทรวงตั้งแต่วานนี้

ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบ คำสั่งจัดตั้งศูนย์ฯ โดยมี รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อัษาพร ไกรพานนท์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ รวมทั้งได้พิจารณามาตรการในการรับมือ ประกอบด้วย มาตรการด้านงบประมาณเพื่อบรรเทาผลกระทบฯ , มาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันฯ, การดำเนินการเพื่อสนับสนุนศูนย์ฯ และการจัดตั้งศูนย์ย่อยในหน่วยงาน 

นายวราวุธ ได้กำชับเรื่องการจัดการขยะประเภทหน้ากากอนามัยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ โดยให้คัดแยกลงในถังเฉพาะ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน 

ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานในสังกัด รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและการดำเนินการของหน่วยงานต่อรัฐมนตรีว่าการฯ อย่างต่อเนื่อง และทันต่อสถานการณ์ ตลอดจนให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเคร่งครัด