จำนวนผู้ติดเชื้อในไทย ช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า จะสร้างแรงกดดันให้ฟื้นตัวได้จำกัด

จำนวนผู้ติดเชื้อในไทย ช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า จะสร้างแรงกดดันให้ฟื้นตัวได้จำกัด

หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากแผนกระตุ้น

หลังรัฐบาลสหรัฐมีแผนมอบเงินจากกองทุนฉุกเฉินในการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ขณะที่อนุมัติการเลื่อำระภาษีทั้งภาคธุรกิจและบุคคลธรรมดา รวมทั้งแผนในการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 8.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงแผนช่วยเหลือสายการบินไม่ให้ล้มละลาย ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวแรง อย่างไรก็ตามด้วยแนวโน้มของการขาดแคลนสภาพคล่อง ที่สะท้อนให้เห็นผ่านการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัญฯ (Dollar Index) เราคาดการฟื้นตัวของหุ้นเอเชียและตลาดเกิดใหม่จะมีระดับที่จำกัดกว่า หุ้นสหรัฐฯ

การเพิ่มของผู้ติดเชื้อในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้ามีแนวโน้มสร้างแรงกดดันตลาด แม้วานนี้ครม.เห็นชอบมาตรการควบคุมการระบาด โดยมห้สถานบริการในกทม.และปริมณฑล ได้แก่ โรงภาพยนต์, สถานบันเทิง, ผับ, บาร์, ร้านนวด หยุดเป็นเวลา 14 วันเริ่ม 18-31 มี.ค. รวมถึงเลื่อนการหยุดสงกรานต์ 13-15 เม.ย.ไปหยุดชดเชยในช่วงเวลาอื่นที่เหมาะสม (อาจเป็น ก.ค.) แต่มาตรการดังกล่าวมาช้าทำให้จะส่งผลบวกในช่วงถัดไปไม่ใช่ 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งอิงจากสถานการณ์ในหลายประเทศ จะเห็นการเร่งของผู้ป่วยจากระดับ 100 สู่ 1,000 ราย (โดยมาก 3-5 พันราย) ในราว 9-17 วัน และมีเพียงญี่ปุ่นเท่านั้นที่สามารถควบคุมจำนวนการเพิ่มขึ้นให้ไม่เกิน 1,000 รายได้ ซึ่งเราประเมินการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อจะสร้างแรงกดดันให้รัฐออกมาตรการที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาด

ตลาดหลักทรัพย์ปรับเปลี่ยนเกณฑ์ควบคุมการซื้อขาย โดยการปรับระดับของการเคลื่อนไหวจนหยุดการซื้อขาย (Circuit breaker) ที่ระดับ 8%/15%/20% (จากเดิมที่ 10% และ 20%) ขณะที่ปรับลดกรอบการเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัว (Ceiling and floor) เหลือ +/-15% (จากเดิม 30%) เพื่อลดความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้น มีผลชั่วคราว ระหว่าง 18 มี.ค.-30 มิ.ย. หรือจนกว่าสภาวะการซื้อขายจะกลับสู่ปกติ ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นผลดีในเชิงจิตวิทยาที่ตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว และมีผลในทางชะลอความผันผวนแต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงทิศทางการเคลื่อนไหว ซึ่งเราประเมินตลาดจะยังได้รับแรงกดดันจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63

ภาพรวมกลยุทธ์ อาจฟื้นตัวได้บ้าง แต่ยังผันผวนในทางลบ จนกว่าสถานการณ์ระบาดในไทยจะเข้าสู่ภาวะทรงตัว ระวังแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ การลงทุนเน้นทยอยสะสมกลุ่มรายได้มั่นคง ที่มีผลตอบแทนปันผลจับต้องได้ อาทิ สื่อสาร ไฟฟ้า  // หุ้นแนะนำวันนี้ ทยอยสะสม BPP*, INTUCH, ADVANC*

แนวรับ 1,000-1,020 จุด / แนวต้าน : 1,080 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%.

ประเด็นการลงทุน

จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในสหรัฐ พุ่งทะลุ 5,000 ราย – สหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 มีมากกว่า 5,145 ราย เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ในช่วงเวลาเพียง 7 วัน ขณะที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 91 ราย

ทุ่มงบกว่า 1.7 หมื่นล้าน แก้ Covid-19 ภัยแล้ง – ครม.อนุมัติงบกลาง มูลค่า 17,310 ล้านบาท สำหรับใช้ในการแก้ปัญหาไวรัส Covid-19 รวมถึง ภัยแล้ง

อุตสาหกรรมการบิน – Centre for Aviation (CAPA) เอนว่าการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 จะส่งผลกระทบให้สายการบินจำนวนมากตกอยู่ในภาวะเสี่ยงล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้

Fitch ratingปรับลดแนวโน้มเครดิตประเทศไทยลงเป็น “มีเสียรภาพ” จากเดิม “เชิงบวก” โดยยังคงอันดับเครดิตที่ BBB+ โดยแนวโน้มที่ลดลงมาจากผลกระทบจากไวรัสโคโรนา, ภัยแล้ง และการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า

ค่าระวางเรือ – ล่าสุดอยู่ที่ 612 เปลี่ยนแปลง -11.00 หรือ -1.77%

ประเด็นติดตาม: 18 มี.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อยุโรป เดือน ก.พ. / 25 มี.ค. ประชุม กนง. / 31 มี.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)