วิกฤติโควิด-19 วิกฤติศรัทธา

วิกฤติโควิด-19 วิกฤติศรัทธา

 ในระหว่างที่ทุกฝ่ายกำลังระดมทุกสรรพกำลังเพื่อช่วยกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปให้ได้ ขณะเดียวกันยังคงมีความเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มบางพวก

ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการ ซ้ำเติม” ความเดือดร้อนของประชาชน

โดยเฉพาะการกักตุนสินค้าที่จำเป็นเช่น หน้ากากอนามัย ทั้งกรณีของ เสี่ยบอย” ศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี นักธุรกิจ ที่ระบุว่ามีหน้ากากในสต็อกถึง 200 ล้านชิ้น โยงไปถึงคณะทำงานรมช.เกษตรและสหกรณ์ ธรรมนัส พรหมเผ่า

มาถึงกรณีที่ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์” ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมออกมาเปิดเผยข้อมูลที่มี ที่ปรึกษารัฐมนตรีหญิง” เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งออกหน้ากากอนามัย

เวลานี้กระแสเริ่มพุ่งเป้าไปที่ ติ่งมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เจ้ากระทรวงที่ดูแลในเรื่องนี้ ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวส่งทนายแจ้งความดำเนินคดีกับ ทนายอัจริยะ” ฐานหมิ่นประมาท

ทั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นแม้ยังต้องรอการพิสูจน์ว่า ตัวบงการ” ที่แท้จริงเป็นใครกันแน่

แต่ถึงนาทีนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทั้ง 2 กรณีที่มีผลโดยตรงต่อ “วิกฤติศรัทธา” ที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล โดยเฉพาะตัว รัฐมนตรีจุรินทร์” เอง ที่ก่อนหน้านี้ออกมาประกาศอย่างขึงขัง ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม” ว่า ใครเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่เลือกหน้า

แต่จากท่าทีล่าสุดที่สื่อไปถามถึงกรณีของมัลลิกา กลับได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทแล้ว

ไม่นับรวมกับกรณีเด้ง วิชัย โภชนกิจ” อธิบดีกรมการค้าภายใน เข้าไปตบยุงในสำนักนายกฯ ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจลาออก ซึ่งตามมาด้วยเสียงครหาที่ว่า เป็นการลงดาบผู้ที่เป็นต้นเหตุที่แท้จริงหรือไม่? 

ประเด็นนี้วงในวิเคราะห์ว่า สาเหตุการเด้งมีความเป็นไปได้ 3 อย่าง 1.ตัดตอนเพื่อไม่ให้สาวไปถึง ไอ้โม่ง ที่เป็นตัวบงการใหญ่ 2.ศึกระหว่างพรรคบางพรรค 3.ความผิดพลาดตัวอธิบดีที่อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ

ทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นขณะนี้ เริ่มลามไปเป็นประเด็นการเมือง ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลและตัวรัฐมนตรีจุรินทร์จะต้องเร่งทำความจริงให้กระจ่าง

เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวรัฐบาลและรัฐมนตรีเอง ที่จะเผชิญวิกฤติศรัทธาที่ถดถอยลงไปเรื่อยๆ!!