หุ้น น้ำมัน ทอง ทยอยลง…..เงินหายไปไหน?

หุ้น น้ำมัน ทอง ทยอยลง…..เงินหายไปไหน?

ตลาดหุ้นโลกยังปรับลดลงต่อเนื่อง

โดยหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงจนติดระดับหยุดพักการซื้อขาย (Circuit breaker) ที่ 7% ก่อนกลับมาซื้อขายและปิดปรับตัวลดลงราว 12% ขณะที่หุ้นยุโรปปรับตัวลดลง 4-6% สำหรับราคาทองคำและน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยหลัง แต่ก็หลังจากการปรับลดลงแรงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้น (ซึ่งแสดงถึงแรงขาย) ก่อให้เกิดคำถามกับนักลงทุนว่าเงินไปไหน?

การสำรองเงินสดของกิจการต่างๆกดดันสภาพคล่อง การเติบโตของตลาดทุนโลกและกิจการต่างๆในช่วงหลังจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ (2008) และวิกฤติหนี้ระหว่างประเทศยุโรป (2011) มาจากการก่อหนี้ ขณะที่สถานการณ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ ทำให้เกิดการชะงักงันทั้งอุปสงค์ (demand) และอุปทาน (supply) ของสินค้าและบริการทั่วโลก ส่งผลให้ธุรกิจขาดรายได้ ขณะที่ยังแรงกดดันด้านรายจ่าย จึงทำให้กิจการจำนวนมากจำเป็นต้องระดมสภาพคล่องผ่าน 1) การกู้ยืม 2 )การขายสินทรัพย์ต่างๆ 3) การระงับแผนการลงทุนและใช้เงินต่าง (รวมทั้งการซื้อหุ้นคืน) ทั้งนี้นักลงทุนสามารถติดตามความรุนแรงของสภาพคล่องได้จาก TED spread และ Repo rate ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนทั่วไป เพื่อให้ง่าย อาจใช้การติดตามค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ (Dollar index) ซึ่งการแข็งแสดงถึงสัญญาณลบ

การประกาศเข้าสู่ระยะที่ 3 ขึ้นกับเวลาเท่านั้น แม้รัฐบาลจะยังไม่ประกาศให้การระบาดในไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 แต่อิงสถานการณ์ในต่างประเทศการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อจากระดับ 100 ราย สู่ 1,000 ราย จะใช้เวลาราว 9-17 วัน (ถ้าผ่านได้แล้วผู้ติดเชื้อไม่เพิ่มมาก มักขสู่จุดที่ควบคุมได้) ดังนั้นสถานการณ์ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นจุดตัดสินสำคัญว่าประเทศไทยคุมสถานการณ์ระบาดอยู่ หรือมีความเสี่ยงที่จะต้องออกมาตรการในระดับเข้มข้นขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะมีความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลกระทบของกำไรบริษัทจดทะเบียนตามมา

แม้ตลาดมีความเสี่ยง หุ้นหลายตัวเริ่มต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน เป็นการยากที่จะตอบว่าแรงกดดันด้านสภาพคล่องจะทำให้ตลาดเคลื่อนไหวผิดเพี้ยนและปรับลดต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานไปนานเพียงใด? อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าราคาหุ้นหลายตัวในปัจจุบันได้ปรับลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานระยะยาว หรือต่ำกว่าศักยภาพการเติบโตในระยะยาว เพียงแต่นักลงทุนที่เข้าลงทุนในช่วงนี้อาจต้องรับความเสี่ยงความผันผวนราคาและผลประกอบการที่จะชะลอในช่วงไตรมาส 1/63 ได้

ภาพรวมกลยุทธ์ ตลาดช่วงสั้นยังผันผวนในทางลบ จนกว่าสถานการณ์ระบาดจะเข้าสู่ภาวะทรงตัว ระวังแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ การลงทุนเน้นทยอยสะสมกลุ่มรายได้มั่นคง ที่มีผลตอบแทนปันผลจับต้องได้ อาทิ สื่อสาร ไฟฟ้า  // หุ้นแนะนำวันนี้ ทยอยสะสม BPP*, INTUCH, THRE*

แนวรับ 1,000-1,020 จุด / แนวต้าน : 1,080 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%.

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐฯ เริ่มทดสอบวัคซีนต้าน Covid-19 กับคนเป็นครั้งแรก – ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ เผย การทดสอบวัคซีนต้านไวรัส Covid-19 เริ่มกับคนเป็นครั้งแรกในวันนี้

BOJ เพิ่มเป้าการซื้อพันธบัตร – ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมฉุกเฉินวานนี้ โดยปรับเพิ่มเป้าหมายการซื้อพันธบัตรเพิ่มอีก 2 ล้านล้านเยน และใช้กลไกการปล่อยกู้ใหม่สำหรับบริษัทเอกชน

บจ.ลุยซื้อหุ้นคืน – กลุ่ม บจ. 6 บริษัท ทุ่มซื้อหุ้นคืนหลังราคาหุ้นดิ่งแรง โดย CPF ทุ่ม หมื่นล้านบาท ซื้อคืน 400 ล้านหุ้น, CPALL ทุ่ม 1.3 หมื่นล้านบาท ซื้อคืน 180 ลลล้านหุ้น ขณะที่ SCB ทุ่ม   1.6 หมื่นล้านบาท ซื้อคืน 135.96 ล้านหุ้น

ค่าระวางเรือ – ล่าสุดอยู่ที่ 623 เปลี่ยนแปลง -8.00 หรือ -1.27%

ประเด็นติดตาม: 17 มี.ค. ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ก.พ. / 18 มี.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อยุโรป เดือน ก.พ. / 25 มี.ค. ประชุม กนง. / 31 มี.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)