กังวล "Covid" แพร่กระจาย

กังวล "Covid" แพร่กระจาย

ดัชนีวานนี้ปิดร่วงแรงกว่า 82 จุดท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19

รวมทั้งการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร่งด่วนลง เหลือ 0% ยิ่งสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาด นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง ยังกดดันต่อกลุ่ม ENERG ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,046.08 จุด (-82.83 จุด) Volume 6.8 หมื่นลบ. ต่างชาติ -5,425.06 ลบ. TFEX Net +18,438 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ราคาทองคำปรับตัวลงแรงวานนี้เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกต้องการถือเงินสดและมองว่าทุกสินทรัพย์เป็นสินทรัพย์เสี่ยง

+สหรัฐเริ่มทดสอบวัคซีนต้านโควิด-19 กับคนเป็นครั้งแรกวันนี้

+ ก.ล.ต.ออกเกณฑ์กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ลงทุนในตลท.แล้วเปิดขายได้ 1 เมษายนนี้ 

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 2,997.10 จุด -12.93% ทำสถิติลดลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2530 กังวลผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์เช้านี้ดีดขึ้น

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 3.03 ดอลลาร์ -9.6% ปิดที่ 28.70 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลว่าการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะฉุดรั้งการเติบโตทางศก.และความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก

-สธ.เผยมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 33 คนจากสัมผัสใกล้ชิด-เดินทางกลับจากตปท.ยอดสะสมรวม 147 ราย

-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วง 98.18 จุด -3.40% หลังเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

-ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 429.01 จุด -2.46% นลท.ผิดหวัง BOJ คงดอกเบี้ยในการประชุมฉุกเฉิน

-นายกฯยังไม่ได้ใช้ยาแรงสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แค่งดหยุดสงกรานต์งดไปสถานที่มีคนจำนวนมาก

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 83,227.53 ลบ. ค่าเงินบาท 32.14 บาท/US

*จับตาการประชุมครม. ส่วนสหรัฐเผยยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน  ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงตามทิศทางตลาดโลก หลังดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวลงเกือบ 3 พันจุด ลงแรงสุดนับตั้งแต่ปี 1987 สาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ประกอบกับแรงกดดันจากราคาน้ำดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงกว่า 9.6% ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างต่อเนื่อง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 970 -1,050 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

         หุ้น PBV ต่ำ yield สูง

            (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากไฟล์แนบ)  

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากประกาศแพร่ระบาดระดับ 3 (MAKRO BJC CPALL TU TFMAMA)

หุ้นมีข่าว   

·      6 บจ. “CPF-TFG-SGP-SCP-CPALL-SCB” ทนไม่ไหวราคาหุ้นดิ่งแรงเกิน! ประกาศซื้อหุ้นคืน CPF นำทีมทุ่มหมื่นล้านบาท ซื้อคืน 400 ล้านหุ้น ฟาก CPALL ไม่น้อยหน้าทุ่ม 1.3 หมื่นล้านบาท ซื้อคืน 180 ล้านหุ้น ขณะที่ SCB อัด 1.6 หมื่นล้านบาท ซื้อคืน 135.96 ล้านหุ้น หลัง KBANK ใช้เงิน 3.2 พันล้านบาท ซื้อหุ้นคืนได้ตามเป้า 23.93 ล้านหุ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      “กทท.” เดินเครื่องประมูลแหลมฉบัง เฟส 3 ต่อ พรุ่งนี้เชิญกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC (GULF-พีทีที แทงค์-China Harbour) เจรจาอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าเซ็นสัญญาภายใน เม.ย. 63  ขณะที่ ผอ.กทท.เผยเอกชนเสนอผลตอบแทนต่ำเรี่ยดิน 1.2 หมื่นล้านบาท จากราคากลาง 3.2 หมื่นล้านบาท ฮึด!ต่อรองเรียกเพิ่ม วงในคาดได้ 2.5-2.7 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·       (+/-) CBG (Bloomberg Consensus 96.56 บาท) เปิดตัวสินค้าใหม่ Woody C+Lock เครื่องดื่มวิตามินซี หวังผลักดันเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในเครื่องดื่มวิตามินซี ตั้งเป้าปี 2563 รายได้รวมโตไม่ต่ำกว่า 25% ยอดขายต่างประเทศหนุนทั้งกัมพูชา-เมียนมา-เวียดนาม คุมมาร์จิ้นไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ 39% ทุ่มงบกว่า 1.5-2 พันล้านบาท ขยายกำลังการผลิต มองโอกาสซื้อหุ้นคืนหากราคายังปรับตัวลดลง (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) SAMART (Bloomberg Consensus 10.50 บาท) คว้างาน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดเก็บภาษีสรรพสามิตประเภทสุราแช่ชนิดเบียร์ มูลค่า 8 พันล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี จ่อรับรู้รายได้เฉลี่ย 1,000 ล้านบาทต่อปี เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 เดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง หวังดันแบ็กล็อกจากเดิมที่มีอยู่กว่า 10,144 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) กลุ่มอาหารได้รับผลดีจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายประเทศรวมไทยแห่กักตุนอาหารโบรกชี้ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ เหตุอาหารยังจำเป็น แนะ CPF-TU ราคาเนื้อหมูและไก่ยังสูง ปลาทูน่าเริ่มฟื้นตัว ราคาพุ่ง ด้านบอร์ด CPF และ CPALL ไฟเขียวซื้อหุ้นคืนทั้ง 2 บริษัท มีมูลค่ารวม 2.3 หมื่นล้านบาท หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+/-) TAPAC (Bloomberg Consensus - บาท) โชว์ผลงานไตรมาส 1/63 กำไรพุ่ง 22.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.88% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ชี้ยอดขายผลิตภัณฑ์พลาสติกแม่พิมพ์-ธุรกิจค้าปลีก-อสังหา โตต่อเนื่องอัตรากำไรขั้นต้นพุ่งแตะ 30.05% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 27.59% (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+/-) TRUE (Bloomberg Consensus 4.18 บาท) ดีเดย์เปิดบริการ 5G เชิงพาณิชย์ในวันนี้ หลังจ่ายเงินค่าประมูลคลื่น 2600 MHz งวดแรกกว่า 1,912 ล้านบาท พร้อมรับใบอนุญาตแล้ว จ่อนำแผนลงทุนขยายโครงข่าย 5G เสนอเข้าบอร์ดสิ้นเดือน มี.ค.นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

·       (+/-) NER (Bloomberg Consensus 3.26 บาท)   คงเป้าปริมาณขายปีนี้พุ่ง 409,176 ตัน เหตุไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ลูกค้ายังไม่ยกเลิกคำสั่งซื้อ หนุนผลงาน Q1 สวย! และ Q2 เดินเครื่องโรงงานใหม่ เพิ่มกำลังผลิตอีก 172,800 ตัน/ปี ดันกำลังผลิตปีนี้ทะยาน 465,600 ตัน/ปี (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+/-) WHA (Bloomberg Consensus 4.27 บาท) เตรียมออกหุ้นกู้อีก 3,500-4,000 ล้านบาทในช่วงเม.ย.นี้ มั่นใจยอดขายที่ดินปีนี้ตามเป้า 1,400 ไร่ แม้ไตรมาส 1/63 ลูกค้าเลื่อนเซ็นสัญญาออกไป เหตุสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เล็งร่วมประมูลโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 1-2 แห่ง (ที่มา ทันหุ้น)