นายกฯ แถลงสถานการณ์โควิด-19 ขอประชาชนร่วมมือ 6 ข้อ

นายกฯ แถลงสถานการณ์โควิด-19 ขอประชาชนร่วมมือ 6 ข้อ

นายกฯ แถลงสถานการณ์โควิด-19 ขอประชาชนร่วมมือ 6 ข้อ ย้ำ "ประเทศไทยต้องชนะ"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563 เวลา 19.00 น. ความว่า สวัสดีครับประชาชนชาวไทยทุกท่าน การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี  2562 จนถึงวันนี้  16 มีนาคม 2563 มีการระบาดไปแล้วถึง  154  ประเทศ มีจำนวนผู้ป่วยรวม  167,543  รายทั่วโลก และประเทศไทยเองด้วย 

จนถึงวันนี้ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อแล้ว  147  ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว  38  ราย  เสียชีวิต  1  ราย และยังไม่พบมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ช่วงที่ผ่านมานั้น ประเทศไทยสามารถชะลอการแพร่กระจายของโรคได้ดี ด้วยระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย แต่การระบาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุสำคัญอาจจะเกิดขึ้นจากการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก และเป็นช่วงที่มีจำนวนผู้ป่วยเกิดขึ้นมากทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ประชาชนย่อมมีความกังวล บางท่านอาจจะรู้สึกกลัวการติดเชื้อเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะมีการเสนอข่าวการแพร่ระบาดและผู้เสียชีวิตในต่างประเทศจำนวนมาก รวมถึงมีข่าวสารมากมายที่ไม่ได้ผ่านการคัดกรอง ได้ส่งถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว ในข่าวสารเหล่านั้นบางส่วนก็ไม่เป็นความจริง จนทำให้เกิดความตระหนกแตกตื่น เริ่มมีการกักตุนหน้ากากอนามัย และสินค้าอุปโภค บริโภค ซึ่งไม่มีความจำเป็น

ในสถานการณ์เช่นนี้ ผมขอย้ำว่ารัฐบาลไทยไม่เคยนิ่งนอนใจ จนถึงวันนี้ รัฐบาลและทุกภาคส่วนได้ร่วมมือร่วมใจทำงาน ในการคัดกรองผู้ป่วยตามมาตรฐานสากลอย่างมีประสิทธิภาพ มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ มีการจัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ สถานพยาบาล และเวชภัณฑ์ทั่วประเทศ อย่างเพียงพอเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อและสร้างความมั่นใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ผมถือว่าบุคคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขคือหัวใจสำคัญ ในการควบคุมการระบาดและรักษาโรค รัฐบาลจึงให้การสนับสนุนและดูแลอย่างเต็มที่ทั้งอุปกรณ์ ความปลอดภัย และสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

องค์การอนามัยโลกประเมินว่าการระบาดของโรคโควิด-19 จะเป็นการระบาดเป็นวงกว้าง โดยคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น เพื่อหยุดการแพร่กระจายเชื้อ โดยงดกิจกรรมในสถานที่ที่มีการชุมนุมจำนวนมาก ปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สถานบันเทิง สนามกีฬา และสถานศึกษา ยกระดับการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้น

“ประเทศไทย” จะชนะการต่อสู้กับไวรัสนี้ก็ด้วยความร่วมมือของประชาชน โดย

- งดการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลานี้  กรณีกลับจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต้องกักตัว อย่างเคร่งครัด 14 วัน

- รักษาสุขอนามัยส่วนตัว เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ได้แก่ กินร้อน อาหารปรุงสุกใหม่ สะอาด ไม่กินของแปลก ช้อนเรา แก้วเรา ห้ามกินน้ำแก้วเดียวกัน สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่เสี่ยง คนไม่ป่วยใช้หน้ากากผ้า แต่ถ้ามีอาการป่วยควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่บ่อย ๆ กรณีไปที่สาธารณะแล้วต้องจับ ลูกบิดประตู ราวรถเมล์ ปุ่มกดลิฟต์ บันไดเลื่อน ห้องน้ำ เป็นต้น ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ต้องดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินยาอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากติดเชื้อจะมีอาการหนักและมีโอกาสเสียชีวิตสูง

- หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เพราะมีโอกาสจะแพร่เชื้อ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรสวมหน้ากากอนามัย และยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เจ็บป่วย ไม่สบาย ควรอยู่บ้าน

- อย่ากักตุนของ อย่าวิตก กังวลจนเกินไป ขอให้มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลจะจัดการให้มั่นใจได้ว่าจะมีหน้ากากอนามัย เครื่องอุปโภค บริโภค และสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้อย่างเพียงพอ

- ขอความร่วมมือผู้ที่ยังไม่มีอาการ ไม่มีประวัติเสี่ยงติดเชื้อ และแพทย์วินิจฉัยแล้วว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องตรวจ ก็ขอให้สังเกตอาการต่อไป เพื่อไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และจะได้มีชุดตรวจเพียงพอสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ เท่านั้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการตรวจยังมีราคาแพงอยู่ และหมอ พยาบาลผู้เข้าไปทำการป้ายจมูก ป้ายคอเพื่อเก็บเชื้อไปส่งตรวจนั้นต้องใส่ชุดป้องกันตัวอย่างรัดกุม และต้องใช้เวลาในการตรวจ ตั้งแต่เตรียมอุปกรณ์ และการใส่ชุด

- ขอความร่วมมือหยุดการกระจายข่าวที่ไม่เป็นความจริง สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชน และก่อนจะมีการกระจายข่าวใด ๆ ขอให้มีการตรวจสอบความถูกต้องก่อน 

การระบาดของโรคนี้เราต้องทำความเข้าใจร่วมกันว่ายังคงดำเนินไปอีกระยะหนึ่ง ผมรู้ว่าพวกเราทุกคนต้องลำบาก ต้องเจ็บปวด แต่เราต้องอดทนร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ผมขอขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายและประชาชนทุกคน
 
“ประเทศไทยต้องชนะ” ครับ