'โออาร์' รับโควิดฉุดยอดขายน้ำมัน

'โออาร์' รับโควิดฉุดยอดขายน้ำมัน

"โออาร์" ชี้ยอดการใช้น้ำมันปีนี้อาจหดตัวลงในรอบ 11 ปี หากโควิด-19 ยืดเยื้อ พร้อมเดิดหน้าคลอดน้ำมันสูตรใหม่กลุ่มเบนซิน

     นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ โออาร์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับลดลงต่อเนื่องในเดือนมี.ค.นี้ อาจส่งผลให้ธุรกิจน้ำมันในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ ประสบปัญหาขาดทุนสต็อก ขณะเดียวกัน บริษัทได้ทยอยปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมาติดต่อกัน 5 วัน เพื่อให้ราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แม้ว่าค่าการตลาดของผู้ค้าจะยังอยู่ในระดับสูงแต่ก็จะพิจารณาปรับราคาลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังจะหาแนวทางช่วยเหลือตัวแทนจำหน่าย(ดีลเลอร์)ที่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก เพื่อบรรเทากระทบจากการปรับราคาลดลงทุกวัน โดยจะลดราคาน้ำมันจากคลังของโออาร์ลงทันทีในวันเดียวกับที่ประกาศราคาล่วงหน้า

     ส่วนยอดการใช้น้ำมันของประเทศในปัจจุบันเริ่มชะลอตัว จากผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ซึ่งหากไทย ประกาศเข้าสู่การแพร่ระบาดในระยะที่ 3 ก็อาจส่งผลให้ยอดการใช้น้ำมันของประเทศหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี เช่นเดียวกับช่วงเกิดวิกฤตแฮบเบอร์เกอร์ ปี 2551-2552 ที่ยอดการใช้น้ำมันตกลง 2 ปีติดต่อกัน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่ายอดการใช้น้ำมันของประเทศปีนี้ จะเติบโต 3%

     ทั้งนี้ ยอดขายน้ำมันของ โออาร์ ช่วงเดือน ม.ค. -ก.พ. 63 ยังขยายตัว 1-2% ซึ่งเป็นไปตามการขยายสถานีบริการน้ำมัน ที่เพิ่มขึ้นในปีก่อน 155 แห่ง ส่งผลให้ปัจจุบันมีสถานบริการ “พีทีที สเตชั่น” ประมาณ 1,900 แห่งทั่วประเทศ แต่หากไม่มีจำนวนปั๊มใหม่ที่เพิ่มขึ้น ก็อาจทำให้ยอดขายน้ำมันในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาลดลง เนื่องจากการแพร่ระบายของเชื้อโควิด-19 ทำให้การเดินทางเพื่อท่องเที่ยงชะลอตัว

     “บริษัท อยู่ระหว่างติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างใกล้ชิดว่าจะส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้น้ำมันและยอดขายอย่างไร ขณะเดียวกันได้ตั้งสมมุติฐานหลายระดับ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ รวมถึงบริหารสต็อกให้ขาดทุนน้อยที่สุด”

     อย่างไรก็ตาม บริษัท เตรียมเปิดจำหน่ายน้ำมันสูตรใหม่ทั้งเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ภายในเดือน มี.ค.นี้ในทุกปั๊ม “พีทีที สเตชั่น” ที่เป็นการพัฒนาเติมสารเติมแต่งเข้มข้นขึ้น เพิ่มการชะล้าง ช่วยป้องกันการกัดกร่อนได้ดีขึ้น เสริมประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แรงขึ้น ซึ่งนับเป็นการปรับเปลี่ยนสูตรในรอบ 11 ปี