'เอ็นซีพี' ร้องล้มประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เสนอเปิดยื่นซองข้อเสนอใหม่

'เอ็นซีพี' ร้องล้มประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เสนอเปิดยื่นซองข้อเสนอใหม่

“เอ็นซีพี” ร้องล้มประมูลท่าเรือแหลมฉบัง 3 เดินหน้าเปิดยื่นข้อเสนอใหม่ หลังถูกตัดสิทธิ์ เหตุลงนามสัญญาผิดตำแหน่ง พร้อมเผยข้อเสนอด้านราคาให้ผลตอบแทนรัฐสูงถึง 27,360 ล้านบาท ลั่นหากการท่าเรือฯ เดินหน้า รัฐเสียประโยชน์ 1.5 หมื่นล้าน

นายเผด็จ เมธิยานนท์ ตัวแทนกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี เปิดเผยว่า วันนี้ (16 มี.ค.) กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพีเปิดเผยข้อมูลข้อเสนอที่ทางกลุ่มยื่นประมูลโครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 (ท่าเทียบเรือ F) เนื่องจากต้องการแสดงให้เห็นว่า โครงการนี้ เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญแก่ประเทศ และจะมีสัญญาผูกพันรัฐระยะยาวถึง 35 ปี การปล่อยให้ดำเนินการต่อไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้านแรงต่อประเทศชาติ เนื่องจากรัฐจะเสียประโยชน์มากถึง 15,309 ล้านบาท

รวมทั้งจากข้อเสนอด้านการเงินที่กลุ่มเอ็นซีพียื่นข้อเสนอนั้น อยู่ที่ 27,360 ล้านบาท ขณะที่ข้อมูลปรากฎตามสื่อพบว่าข้อเสนอของกลุ่มจีพีซี อยู่ที่ 12,051 ล้านบาท ซึ่งมาส่วนต่างกันอยู่ที่ 15,309 ล้านบาท นับเป็นมูลค่าที่รัฐอาจเสียประโยชน์

นอกจากนี้หากเทียบกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติที่ 32,225 ล้านบาท ข้อเสนอชองกลุ่มเอ็นซีพี ต่ำกว่ามติ ครม.อยู่ที่ 4,864 ล้านบาท ขณะที่ข้อเสนอของกลุ่มจีพีซี เสนอต่ำกว่าถึง 20,174 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกของโครงการฯ ตัดสิทธิ์กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี มีเพียงเหตุผลระบุว่าเอกสารข้อเสนอในส่วนของสัญญากิจการร่วมค้า ของกลุ่มเอ็นซีพีไม่ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขกำหนด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มเอ็นซีพีมีการลงนามสัญญาครบ และมีตราประทับตามกฎหมายกำหนด เพียงแต่ลงนามไม่ถูกต้องในกรอบที่กำหนดมา

“ท้ายที่สุดเราน้อมรับคำตัดสินของศาล แต่ทางกลุ่มของเรายืนยันว่าการประมูลต่อจากนี้จะเหลือผู้ยื่นประมูลเพียงรายเดียวขณะที่ราคาเสนอก็มีโอกาสที่รัฐจะเสียประโยชน์หลายหมื่นล้าน ดังนั้นโครงการท่าเรือระยะ 3 ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสำคัญ ผูกพันกับรัฐ 35 ปี จะก่อให้เกิดความเสียหายกับรัฐ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวน รวมถึงดำเนินการยื่นข้อเสนอโครงการใหม่ทั้งหมด เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ประเทศชาติ”