'พิธา-พรรณิการ์-ปิยบุตร' ปัดไม่รับผิด 5 ข้อหาชุมนุมสกายวอร์ค

"พิธา-พรรณิการ์-ปิยบุตร" ปัดไม่รับผิด 5 ข้อหาชุมนุมสกายวอร์ค “ทิม” เผยภารกิจแรกต้องมารับทราบข้อหามองเป็นเกมการเมือง ยันไม่กลัว

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 63 นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรค อนค. , นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (กก.) และ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.6 และ พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน ตามหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหา กรณีการจัดชุมนุมแฟลชม็อบสกายวอล์คสี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 62 โดยใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 5 ข้อกล่าวหา คือ 1.ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง, 2.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ 3.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ 4.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 5.ชุมนุมในระยะไม่เกิน 150 เมตร จากพระราชวัง โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ และพนักงานสอบสวนนัดส่งตัวให้อัยการฟ้องศาลในวันที่ 7 เมษายนนี้

นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในเสรีภาพทางการแสดงออกอันเป็นหัวใจหลักประชาธิปไตย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมองว่า พ.ร.บ.ชุมนุม จะช่วยแก้ปัญหาได้ดี แต่กลับกลายเป็นสร้างปัญหามากยิ่งกว่า แม้จะใช้ระบบการแจ้งขอการชุมนุม แต่กลายเป็นการขออนุญาต ทำให้เจ้าหน้าที่วาวเงื่อนไขเคร่งครัดจนไม่สามารถจัดการชุมนุมได้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ประสงค์แจ้งชุมนุม ก่อนหน้านี้เคยเชิญ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจิตดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาหารือในคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนเพื่อทบทวนเรื่องนี้ ซึ่งในที่ประชุมได้มีจ้อเสนอแนะหลายอย่าง แต่หลังจากนี้จะมีการชุมนุมหรือไม่นั้น หลังจากพรรคอนาคตใหม่ถูกวินิจฉัยยุบพรรค ตนยังไม่คิดเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าจะก่อตั้งคณะขึ้นมาเคลื่อนไหวทางความคิดเพื่อรณรงค์การเมืองต่อไป

นายพิธา กล่าวว่า ภารกิจแรกในการที่ตนเพิ่งเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล แล้วต้องมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ แสดงให้เห็นว่าบรรยากาศการเมืองไทยที่ใช้กฎหมายเป็นเกมส์การเมืองนั้น ไม่ต้องการให้มีคนหน้าใหม่เข้ามา ทั้งที่ตนอยากเห็นคนเก่งๆ มีความสามารถเข้ามาทำงาน ยืนยันว่าไม่กลัวหรือมีความกังวลว่าจะทำให้การทำงานของพรรคในอนาคตจะมีปัญหาอะไรเหมือนที่เคยเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะทุกขั้นตอนทำอย่างโปร่งใส การบริหารและหลักการจะยังเหมือนเดิม ตนยังเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพทางการชุมนุมอันเป็นหลักประชาธิปไตยที่ประชาชนสามารถรวมตัวเรียกร้อง ซึ่งเป็นสิทธิที่พึงกระทำได้ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ทำให้เสียเวลาที่จะเอาไปแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 แม้ตอนนี้รัฐสภาจะปิด แต่ตอนนี้ทางพรรคก้าวไกลก็มีสมาชิกเป็นแพทย์เป็นผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขหลายคน เตรียมที่จะหารือกับวิปฝ่ายค้านเพื่อเสนอรัฐบาลให้เปิดประชุมวิสามัญด้วยหรือไม่