ทายาท “มาม่า” ปักธง 50 ปี สานต่ออาณาจักรบะหมี่ฯเบอร์ 1

ทายาท “มาม่า” ปักธง 50 ปี สานต่ออาณาจักรบะหมี่ฯเบอร์ 1

สถานการณ์ผู้บริโภคตื่นตระหนก "ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่"(โควิด-19) จนแห่ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อ "ตุนสเบียง" ไว้เลี้ยงตัว "มาม่า" หนึ่ง #ของมันต้องมี ผู้บริหารยืนยันกำลังผลิตพอต่อความต้องการ โรงงานพร้อม แผนธุรกิจยังต้องขับเคลื่อนสู่การเติบโต

มาม่า” แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเบอร์ 1 ของเมืองไทย มีส่วนแบ่งทางการตลาดราว 50% จากตลาดรวมกว่าหมื่นล้านยังยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งมรยาวนาน โดยในปี 2565 มาม่า” จะฉลองครบรอบ 50 ปี มีเป้าหมายใหญ่จะขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต สร้างยอดขายแตะ 30,000 ล้านบาท

จากรุ่นบิดาผู้ก่อร่างสร้างธุรกิจ มาสู่ทายาทต้องสืบทอดสานกิจการต่อยอดอาณาจักรให้เติบโตใหญ่

พันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)หรือ TFMAMA หนึ่งในทายาทของ "พิพัฒ พะเนียงเวทย์" เล่าว่า การขับเคลื่อนธุรกิจในปัจจุบันผู้นำทัพรุ่นก่อนเริ่มถอยอยู่เบื้องหลัง และให้ทายาทมีบทบาทในการบริหารธุรกิจมากขึ้น ขณะที่พันธกิจสำคัญใน 2 ปีข้างหน้า เขาย้ำว่าบริษัทต้องการผลักดันยอดขายให้แตะ 30,000 ล้านบาท

158428598985

ยอดขาย TFMAMA

จากปี 2562 สร้างยอดขายรวม 23,999.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.96% (รวมเพรซิเดนท์เบเกอรี่ หรือฟาร์มเฮ้าส์)แต่หากแยกเฉพาะมาม่ายอดขายเติบโต 9.41% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,943.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น15.82% โดยยอดขายที่โตมาจากการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มพอร์ตบะหมี่ฯเซ็กเมนต์พรีเมี่ยม “มาม่าออเรียนทัลคิตเชน มาม่ารสผัดไข่เค็ม รวมถึงสินค้าโจ๊กและพระเอกใหม่ ข้าวต้มมาม่า” จนมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมเป็น 17-18% จากก่อนหน้านี้เติบโต 5-6% เท่านั้น

158428596373

ข้าวต้ม 1 ใน พระเอกใหม่ของ "มาม่า"

ทั้งนี้ เพื่อให้ทะลุเป้าหมาย บริษัทจะขยายไลน์สินค้า และสร้างยอดขายชิงส่วนแบ่งทางการตลาดสินค้าอื่นที่ไม่ใช่บะหมี่ฯเพิ่มขึ้น เช่น หมวดข้าวต้ม โจ๊ก เฉพาะปี 2563 บริษัทมีแผนจะออกสินค้าใหม่ 5-6 รายการ เร็วๆนี้เตรียมส่ง ข้าวต้มปลา เสริมพอร์ตโฟลิโอข้าวต้ม รวมถึงสร้างการเติบโตให้กับมาม่าออเรียลทัลคิตเชน หลังจากที่ผ่านมามบะหมี่ฯจากต่างประเทศ เข้ามาทำตลาดจำหน่ายในราคา 40-50 บาทต่อซอง ช่วยทลายกำแพงและการยอมรับ(Perception)ของบะหมี่ฯ ที่ไม่ควรเกิน 6 บาทต่อซอง

ปี 2565 มาม่าจะครบรอบ 50 ปี คุณพิพัฒ(รองประธานกรรมการบริษัท)ตั้งเป้ายอดขายไว้ 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากกลยุทธ์การขยายไลน์สินค้า เพิ่มการผลิต การส่งออก และรวมรายได้จากทุกบริษัทที่เราถือหุ้นเกิน 50% ด้วย

ส่วนภาพรวมตลาดบะหมี่ฯในปี 2563 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง ปฏิเสธไม่ได้ว่าการตื่นตัวของประชาชนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทำให้ไม่ต้องการออกจากบ้านเพื่อเผชิญความเสี่ยงต่างๆ ส่งผลให้ความต้องการ(Demand)สินค้าเพิ่มขึ้น เช่น จากเดิมผู้บริโภคซื้อมาม่า 6 ซอง เพิ่มเป็น 20-30 ซอง เป็นต้น

158428624119

ชั้นวางสินค้าหมวดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ณ เทสโก้โลตัส สาขาอ่อนนุช (15 มี.ค.63)

แม้ดีมานด์สินค้าจะเพิ่มสูง แต่บริษัทยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาบะหมี่ฯขาดแคลนอย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่แบรนด์มาม่า แต่รวมทุกยี่ห้อของตลาด เนื่องจากกำลังการผลิตบะหมี่ฯออกสู่ตลาดราว 300 ล้านซองต่อเดือน เฉลี่ยราว 10 ล้านซองต่อวัน เฉพาะมาม่าราว 5-6 ล้านซองต่อวัน และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตถึง 15 ล้านซองต่อวัน โดยยังไม่นับรวมสินค้านำเข้า

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการบริหารความเสี่ยงและการผลิตสินค้า หากความต้องการบริโภคสูงขึ้นมาก จะขอความร่วมมือพนักงานเดินเครื่องการผลิตสินค้า 3 กะ 24 ชั่วโมง และหากต้องผลิตช่วงสงกรานต์ยินดีจ่ายค่าแรง 3 เท่าตัว

ตลาดบะหมี่ฯปีนี้โตแน่นอน ผลกระทบจากโรคระบาด ภัยธรรมชาติ ผลักดันตลาดโตอยู่แล้ว ยิ่งมีสถานการณ์ซื้อสินค้าเพิ่ม(ตุนทุกแบรนด์ยังคงแข่งขันทำตลาดและโปรโมชั่น จากความต้องการสินค้าเพิ่มมองว่าจะไม่ถึงขั้นวิกฤติสินค้าขาดหรือผลิตไม่ทัน ยืนยันว่าสินค้ามีเพียงพอต่อการบริโภคอย่างแน่นอน นี่ไม่นับรวมโจ๊ก ข้าวต้ม และเส้นประเภทอื่นด้วย 

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกไปยังจีนมากนัก เพราะบริษัทค่อนข้างขยายตลาดอย่างระมัดระวังแลกำหนดสัดส่วนส่งออก 20-25%

ปีนี้เศรษฐกิจ กำลังซื้อชะลอตัว และมีโรคระบาดทุบซ้ำธุรกิจ ยอมรับว่า ผู้ประกอบการค่อนข้างช็อกแต่ประเทศไทยค่อนข้างรู้เหตุการณ์เร็วและเป็นประเทศแรกๆที่รับมือโรคดังกล่าว ส่วนประชาชนกลัวไวรัสมากเกินไปหรือไม่ มองว่าไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอยมากกว่า

ทั้งนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค เดิมออกจากบ้านไปชิมช้อปใช้ภายในห้างค้าปลีกเพราะต้องการความสบายใจ แต่เมื่อมีโรคระบาด และดิจิทัลดิสรัปชั่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาจทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมซื้อสินค้าจนไม่กลับไปห้างค้าปลีกได้

158428653334

เมื่อก่อนมีผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่ช้อปออนไลน์ แต่มีปัจจัยทำให้เปลี่ยนพฤติกรรม และหากช้อปออนไลน์เก่ง และ 6 เดือนนี้คนไม่ไปเดินห้างแล้วพฤติกรรมเปลี่ยนไปเลย ห้างอาจได้รับผลกระทบ

สำหรับภาพรวมปี 2563 มาม่าตั้งเป้ายอดขายเติบโต 5% บริษัทยังขานรับนโยบานรองประธานบริษัท ในการตุนกระแสเงินสด และไม่กู้เงินมาลงทุนด้วย