กต. ย้ำมาตรการยกเลิกวีซ่า คัดกรอง ‘โควิด-19’ ตั้งแต่ต้นทาง

วันที่ 14 มี.ค. 2563  นายเชิดเกียรติ​ อัตถากร​ อธิบดีกรมสารนิเทศ​และโฆษก​กระทรวงการต่างประเทศ​ ชี้แจงกรณีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย​ ฉบับที่ 1/2563 ลงวันที่ 12 มี.ค. 2563​ เรื่องการกำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นการชั่วคราว​ ซึ่งมีผลแล้วในวันที่​ 13​ มี.ค.ที่ผ่านมาว่า การยกเลิกสิทธิการขอวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival-VOA) ของทุกประเทศและเขตเศรษฐกิจที่ได้รับสิทธิในปัจจุบัน ได้แก่ บัลแกเรีย ภูฏาน จีน ไซปรัส เอธิโอเปีย ฟิจิ จอร์เจีย อินเดีย คาซัคสถาน มอลตา เม็กซิโก นาอูรู ปาปัวนิวกินีโรมาเนีย รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย ไต้หวัน อุซเบกิสถาน และวานูอาตู

ส่วนการยกเลิกสิทธิการเข้าประเทศโดยไม่มีวีซ่า หรือที่เรียกว่า แบบ ผ.30 ของพื้นที่เขตโรคติดต่อ ได้แก่ ฮ่องกง อิตาลี และเกาหลีใต้

ขณะที่ การยกเลิกสิทธิการขอวีซ่าและสิทธิการเข้าประเทศดังกล่าว เป็นสิทธิที่ไทยให้ฝ่ายเดียวอยู่แล้ว จึงปรับเปลี่ยนได้สะดวก โดยเป็นมาตรการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย มีผลตั้งแต่ 13 มี.ค. - 30 ก.ย. 2563 หากคนต่างชาติจากพื้นที่ดังกล่าว ประสงค์จะเดินทางเข้าไทยยังสามารถเข้าไทยได้ โดยจะต้องขอวีซ่าที่สถานทูต สถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศแทน

ในคำประกาศดังกล่าว ทำให้มีบางประเทศและเขตเศรษฐกิจ แม้จะยกเลิกสิทธิการขอวีซ่า VOA และยกเลิกสิทธิการเข้าประเทศโดยไม่มีวีซ่าไปแล้ว แต่ประเทศและเขตเศรษฐกิจ เช่น “รัสเซีย เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเก๊า” ซึ่งเดิมมีความตกลงกับไทยเพื่อยกเว้นวีซ่า ทำให้ผู้ถือหนังสือ​เดินทาง​สัญชาติดังกล่าว ยังสามารถเดินทางเข้าไทยได้ โดยได้รับการยกเว้นบนพื้นฐานของความตกลง

"มาตรการใหม่นี้ จะช่วยให้ไทยบริหารจัดการ คัดกรอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ​มากขึ้น โดยสามารถคัดกรองได้ตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทาง อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศจะประเมินสถานการณ์​ของการแพร่เชื้อโรคระบาดอย่างใกล้ชิดเพื่อจะปรับมาตรการการตรวจลงตราของไทยให้สอดคล้อง​กับสถานการณ์​การแพร่ระบาดของโรค" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ 

อย่างไรก็ตาม นาย เชิดเกียรติ กล่าวยืนยันว่า คนที่จะเดินทางเข้าไทยจากพื้นที่เขตโรคติดต่อมีมาตรการคัดกรองอีกชั้นหนึ่ง โดยจะต้องมี “ใบรับรองแพทย์และประกันสุขภาพ” จึงจะขึ้นเครื่องบินมาไทยได้ ตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย