'ไวรัสโควิด-19' กดดันหุ้นไทยร่วงต่อ

'ไวรัสโควิด-19' กดดันหุ้นไทยร่วงต่อ

บล.กรุงศรี คาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวแดนลบ SET Index มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ระดับ 1,080-1,050 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นบ้านเรายังไม่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวทำให้ภาวะการซื้อขายในระยะนี้จะเป็นไปตาม Sentiment ของตลาดหุ้นต่างประเทศ

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี บอกว่า วานนี้ (12 มี.ค.) SET Index ร่วงแรงจนต้องใช้ Circuit Breaker นักลงทุนเทขายหลัง โดนัล ทรัมป์ สั่งระงับการเดินทางจากยุโรปเข้าสหรัฐเป็นเวลา 30 วัน (ยกเว้นอังกฤษ) และ ไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มขึ้น 11 ราย เสี่ยงต่อการระบาดเข้าสู่ Level 3 กดดันให้ SET ร่วงแรงกว่า 135 จุด (-10.8%) ปิดที่ระดับ 1,115 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 1 แสนล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 อีก 1,929 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตรต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 อีก 13,646 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 28,243 สัญญา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (13 มี.ค.)  เราคงมุมมองเป็นลบคาด SET Index มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ระดับ 1,080-1,050 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นบ้านเรายังไม่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวทำให้ภาวะการซื้อขายในระยะนี้จะเป็นไปตาม Sentiment ของตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งวันนี้ส่วนใหญ่ยังปรับตัวลงเพราะนักลงทุนยังกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ยังเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะในยุโรป และในสหรัฐ

ส่วนสถานการณ์ในบ้านเรายังมี Over hang จากการประกาศสู่ระดับ 3 นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำยังแนะนำถือเงินสด (Wait & See) ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงหาจังหวะที่ตลาดหุ้น Panic เข้าซื้อเก็งกำไรช่วงสั้นโดยเฉพาะหุ้นที่ปรับตัวลงแรงและมีปันผลจ่ายสม่ำเสมอและให้ Dividend yield สูง

ด้านกลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy กลุ่ม Defensive และปันผลสูง ADVANC, INTUCH, TTW กลุ่มค้าปลีก (CPALL, HMPRO, BJC) กำลังซื้อเพิ่มหลังรัฐคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, KTC) ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ADVANC (ปิด 173.5 ซื้อ/เป้า 247 บาท) ราคาหุ้นปรับตัวลงเป็นโอกาสในการเข้าสะสม 1) ได้รับผลกระทบจากไวรัส Covid-19 น้อยสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ 2) เป็นหุ้น Big Cap ที่ผลกำไรมั่นคงจ่ายปันผลสม่ำเสมอและให้ Dividend yield สูง (ADVANC คาดปี 2020 จะจ่ายปันผล 7.9 บาทต่อหุ้นให้ Dividend yield ประมาณ 4.6%)

CPALL (ปิด 61.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 88 บาท) คาดได้ประโยชน์มากสุดจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐ (คืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า 21 ล้านครัวเรือนมูลค่า 30,000 ล้านบาท) เนื่องจากมีสาขากระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ