'วิชัย' ลั่นฟ้องโฆษกกรมศุลกากร เพื่อรักษาศักดิ์ศรีกรมการค้าภายใน

'วิชัย' ลั่นฟ้องโฆษกกรมศุลกากร เพื่อรักษาศักดิ์ศรีกรมการค้าภายใน

แจงปมส่งออกหน้ากากอนามัย ยันห้ามส่งออกหน้ากากอนามัยที่ใช้ในประเทศ ให้เฉพาะหน้ากากที่เป็นสเปกเฉพาะ เผยผู้ส่งออกขออนุญาตกว่า 53 ล้านชิ้น อนุญาตให้ส่งออกเพียง 12.7 ล้านชิ้น แย้มข่าวดีผลิตหน้ากากเพิ่มได้อีกวันละ 3-4 แสนชิ้น

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน  เปิดเผยว่า ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องหน้ากากอนามัยที่กรมศุลกากรออกมาให้ข้อมูลว่ามีการส่งออกหน้ากากอนามัย  330 ตัน  เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน  ซึ่งคณะกรรมการว่าด้วยสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ออกประกาศกกร.ให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมห้ามการส่งออก ยกเว้นหน้ากากทางการแพทย์ หน้ากากลิขสิทธิ์ และหน้ากากโรงงาน โดยข้อมูลที่กรมศุลกากรระบุมีการส่งออกหน่วยเป็นตัน แค่นี้ก็ผิดแล้ว เพราะหน้ากากอนามัยจะใช้คำว่า “ชิ้น”ไม่ใช่ตัน ถ้าส่งออก 330 ตันก็ประมาณ 80 ล้านชิ้น ที่สำคัญการส่งออกจะมีอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการส่งออก ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯได้มีการพิจารณาการขออนุญาตการส่งออก 3 เงื่อนไข คือ หน้ากากอนามัยที่ใช้ในประเทศจะไม่ให้ส่งออก 2.กรณที่ขออนุญาติการส่งออกต้องเป็นหน้ากากอนามัยที่มีสปกเฉพาะหรือมีลิขสิทธิ์ และ3.หน้ากากผลิตเพื่อการส่งออก 100% โดยเป็นไปตามบีโอไอ

ขณะนี้มีผู้ส่งออกขออนุญาตการส่งอออก 53  ล้านชิ้น อนุญาตให้ส่งออกแล้ว 12.7ล้านชิ้น ยกเลิกคำขอ 16 ล้านชิ้น  คงเหลือ 37 ล้านชิ้น  อยู่ในระหว่างการพิจารณา 24 ล้านชิ้น 7 ล้านชิ้น โดยมีโรงงานที่ได้รับอนุญาตส่งออกหน้ากาก  7 แห่ง

  158399541181               

สำหรับการกระจายหน้ากากของศูนย์บริหารจัดการสินค้าหน้ากากอนามัยของกรมการค้าภายใน จะมีเจ้าหน้าของกรมการค้าภายในและทหารจากกองทัพไทยเข้าไปดูแลตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.ในโรงงาน 11 แห่ง เมื่อผลิตได้ 1.2 ล้านชิ้นก็จะส่งมายังศูนย์ฯ โดยศูนย์ฯ ได้จัดสรรหน้ากากอนามัย ณ วันที่ 12 มีนาคม 2563ให้กระทรวงสาธารณสุขกระจายให้บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 800,000 ชิ้น          ซึ่งกระจายไปยัง โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลกรมการแพทย์ โรงพยาบาลรัฐนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 500,000 ชิ้น สถานพยาบาลเอกชน จำนวน 115,000 ชิ้น สมาคมคลินิกไทย จำนวน 45,000 ชิ้น โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัย ได้แก่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จำนวน 70,000 ชิ้น และสถานพยาบาลสังกัด กทม. ได้แก่ สำนักอนามัย จำนวน 70,000 ชิ้น 

ส่วนกรมการค้าภายในได้กระจายไปให้ประชาชน จำนวน 760,000 ชิ้น โดยขายหน้ากากอนามัยบรรจุแพค 4 ชิ้น แพคละ 10 บาท ผ่านร้านธงฟ้าและร้านขายยา จำนวน 300,000 ชิ้น เทสโก้โลตัส (180 สาขา) จำนวน 100,000 ชิ้น แม็คโคร (95 สาขา) จำนวน 100,000 ชิ้น  BIG C (150 สาขา) จำนวน 100,000 ชิ้น วิลล่ามาร์เก็ต (36 สาขา) จำนวน 60,000 ชิ้น TOPS   (204 สาขา) จำนวน 100,000 ชิ้น ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกักตุน จำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินกว่าราคาที่กำหนด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

“ขณะนี้มีข่าวดีคือ กรมได้ขอความร่วมมือจาก 11 โรงงาน เพื่อเปลี่ยนไลน์การผลิตที่เคยผลิตเพื่อการส่งออกมาผลิตหน้ากากอนามัยสีเขียว ซึ่งจะสามารถเพิ่มปริมาณ 3-4 แสนชิ้นต่อวัน รวมแล้วก็จะผลิตได้ทั้งหมด 1.5 ล้านชิ้น “

158399542734            

นายวิชัย กล่าวว่า ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีกับโฆษกกรมศุลกากร นั้น ตนได้แจ้งความใน 2 ข้อหาคือ การหมิ่นประมาท และเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณะชน ซึ่งข้อมูลการแถลงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนสร้างความเสียหายให้กรมการค้าภายใน ตนไม่ได้รู้จักโฆษกฯเป็นการส่วนตัว ไม่ได้ไม่พอใจ ตนเป็นลูกหม้อกรมการค้าภายใน ซึ่งการฟ้องเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของกรมการค้าภายในแต่ต้องแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่พูดออกผิดพลาด  และการที่ออกมาชี้แจงไม่พอต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้