แกะรอยข้อมูล 'ธรรมนัส' เครือข่ายดิสเครดิตโยงตุนหน้ากากฯ

แกะรอยข้อมูล 'ธรรมนัส'  เครือข่ายดิสเครดิตโยงตุนหน้ากากฯ

เรื่องขบวนการกักตุนหน้ากากที่ "เพจดัง" หวนกลับมาแฉเอง เชื่อมโยง "พิตตินันท์ รักเอียด" อดีตคณะทำงานของ "ผู้กองธรรมนัส" ว่าเข้าไปปรากฏตัวเกี่ยวข้องกับ "เสี่ยบอย" ศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศมี ที่อ้างว่ามีสต็อกหน้ากาก 200 ล้านชิ้น

แม้เมื่อวานนี้จะยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า นายพิตตินันท์เข้าให้การกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตั้งขึ้นแล้วหรือยัง แต่ก็มีข้อมูลที่ผู้กองธรรมนัสเตรียมชี้แจงต่อสังคมหลุดออกมาบ้างแล้ว

 

10 มี.ค. ผู้กองธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ตรงๆ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองแน่นอน และแย้มพรายว่า ตัวละครที่ปรากฏออกมาทางสื่อนั้น ต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง ตนรู้ข้อมูลเยอะแล้ว และทุกอย่างจะชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

 

ข้อมูลที่ผู้กองธรรมนัสโปรยหัวกับสื่อนั้น บางส่วนตรงกับข้อมูลที่ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบ และจัดทำรายงานถึงนายกฯ โดยเบื้องต้นให้น้ำหนักว่าผู้กองธรรมนัสไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยที่ถูกแฉออกมา

 

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม และต่อจิ๊กซอว์ข้อมูลของหลายๆ ฝ่าย มีข้อมูลเปิดที่น่าสนใจ คือข้อมูลเกี่ยวกับพรรคภราดรภาพ โดยอาคารย่านหนองแขมที่ตำรวจไปค้นเมื่อวันก่อน เป็นอาคารของบริษัท ไทยเฮลท์ จำกัด ซึ่งเป็นของ นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์

 

นายพันธ์ยศ เป็นอดีตเลขาธิการพรรคภราดรภาพ ปัจจุบันเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค และอาคารติดๆ กันยังเป็นสถานที่ตั้งของสถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย-จีน ซึ่ง “เสี่ยบอย” ไปไลฟ์สดขณะมีการขนกล่องหน้ากากอนามัยขึ้นรถ ทำนองประกาศรับออร์เดอร์หน้ากากอนามัยว่ามีสินค้าไม่อั้น

นายพันธ์ยศ เข้ามาเป็นแกนนำของพรรคภราดรภาพ ตามการชักชวนของ ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร โดย ร.อ.รชฏ เป็นหัวหน้าพรรคภราดรภาพในปัจจุบัน และเคยเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคในช่วงที่ นายพันธ์ยศ เป็นเลขาธิการพรรค

 

เส้นทางการเมืองของ ร.อ.รชฏ เคยเป็น ส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย เคยสังกัดกลุ่มวังน้ำยมที่มี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นแกนนำ ต่อมาพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ร.อ.รชฏ ก็ยกทีมไปสังกัดพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่มีนายสมศักดิ์เป็นแกนนำเช่นกัน กระทั่งพรรคถูกยุบ

 

เส้นทางการเมืองที่ผ่านมาทำให้ ร.อ.รชฏ มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนายสมศักดิ์ รวมไปถึงกลุ่มการเมืองบางกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐที่รวบรวมนักการเมืองที่เคยสังกัดพรรคไทยรักไทยเข้าพรรคไปจำนวนไม่น้อย ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเปิดที่รับรู้กันในแวดวงการเมือง

  158394381899

ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองในทางลับ มีข้อมูลว่ากลุ่มการเมืองบางกลุ่มในพลังประชารัฐต้องการเขย่าเก้าอี้ผู้กองธรรมนัส เพราะถือว่าเป็นนักการเมืองต้นทุนต่ำ เพิ่งบาดเจ็บจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และได้คะแนนโหวตต่ำสุด การโจมตีซ้ำไปที่ผู้กอง จึงน่าจะส่งผลให้เกิดการปรับรัฐมนตรีได้ไม่ยาก

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้าน เหมือนบังเอิญ ก็คือ จู่ๆ นายพันธ์ยศ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ ซึ่งมีธุรกิจด้านขายตรงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพอยู่แล้ว ก็ไปประสานงานหา “หน้ากากอนามัย” ให้กับ “เสี่ยบอย” ศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศมี ที่ติดต่อเข้ามาผ่านผู้ใหญ่คนหนึ่งที่นายพันธ์ยศรู้จัก

“เสี่ยบอย” เองมีพฤติการณ์นัดพบปะกับบุคคลต่างๆ พร้อมถ่ายภาพลงเฟซบุ๊ก ส่วนใหญ่เน้นคนดัง หรือใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ และหนึ่งในนั้นคือ นายพิตตินันท์ รักเอียด คณะทำงานของผู้กองธรรมนัส โดยกรณีของนายพิตตินันท์ แม้ตัวจะไม่ดัง แต่เป็นทีมงานของผู้มีอำนาจ

 

มีข้อมูลในทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า “เสี่ยบอย” มีความสนิทสนมกับ “อดีตบิ๊กสีกากีคนดัง” ที่มีข่าวเกรียวกราวมาตลอด ถึงขั้นมีภาพถ่ายร่วมกัน และเข้านอกออกในทั้งบ้านและคอนโดฯได้ โดยอดีตบิ๊กสีกากีคนดังรายนี้ก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับแอดมินเพจดังๆ ในโลกออนไลน์หลายคนด้วย เพราะเคยทำงานด้านสืบสวนทางโซเชียลมีเดีย

 

ฉะนั้น ข้อมูลที่ผู้กองธรรมนัสเตรียมเปิดเพื่อโต้กลับข้อกล่าวหา ก็คือความเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายเหล่านี้ เพื่อสรุปว่าเป็นขบวนการดิสเครดิตเขา ซึ่งเป็นการขยับจาก 2 ด้านพร้อมกัน

 

ด้านหนึ่งเป็นกลุ่มการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งผู้กองธรรมนัสก็สังกัดอยู่ด้วย เพื่อหวังผลเขี่ยพ้นเก้าอี้ เปิดทางปรับครม. กับอีกด้านหนึ่งเป็นอดีตบิ๊กสีกากีคนดัง ที่ต้องการแก้แค้นเอาคืนผู้ใหญ่ในรัฐบาลที่ไม่ปกป้องตน

 

นี่คือ“การบ้าน” ที่ผู้กองธรรมนัสกำลังเร่งจัดระบบข้อมูล เพื่อเตรียมชี้แจงต่อสาธารณชน ส่วนผลสุดท้ายจะเป็นไปตามที่เราคาดการณ์นี้หรือไม่ และที่สำคัญสังคมจะเชื่อข้อมูลนี้ขนาดไหน...คงต้องรอดู