ปรับสูงขึ้น

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เราคาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวรับ 1250 / 1220 จุด แนวต้าน 1285 / 1300 จุด ประเด็นที่ คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวกว่า 4% และน้ำมันดิบพุ่ง 8-10% หลังปธน.ทรัมป์ เผยเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อลดผลกระทบจาก COVID-19 2) รัฐมนตรีพลังงานรัสเซียจะหารือบริษัทน้ำมันรัสเซียวันนี้ ว่าจะยังคงเป็นพันธมิตรโอเปคหรือไม่ แต่ซาอุฯ เมินท่าทีประนีประนอมดังกล่าว 3) ครม.อนุมัติมาตรการตลาดทุน ขยายวงเงิน SSF อีก 2 แสนบาท เป็น 4 แสนบาท ต้องซื้อภายในวันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. ส่วนสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเสนอเพิ่ม ให้นำเงินซื้อหุ้นลงทุน 2 -5 ปี มาหักลดหย่อนภาษีได้ 4) Ex -Dividend effect มีผลต่อดัชนีฯ วันนี้ -0.89 จุด (หลักๆ มาจาก BDMS PSH)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA-CPI เดือน ก.พ. คาด +2.2% MoM (Vs เดือน ม.ค. +2.5%) Core CPI เดือน ก.พ. เท่าเดิม +0.2% MoM, UK-การรายงานงบประมาณรัฐบาลปี 2020

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวตามภูมิภาค: ดัชนีตลาดฯ ปรับสูงขึ้น ตั้งแต่เปิดตลาด และขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดของวันที่ 1285.65 จุด +29.71 จุด ก่อนอ่อนตัวมาปิดตลาดที่ 1271.25 จุด +15.31 จุด +1.22% วอลุ่ม 7.46 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดย ไฟแนนซ์ +3.74% พาณิชย์ +3.23% มีเดีย +1.83% อาหาร +1.48%

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัว แต่ตลาดหุ้นยุโรปร่วงต่อ: การส่งสัญญาณเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ และข่าวรัสเซียอาจกลับมาเป็นพันธมิตรกับกลุ่มโอเปคอีกครั้ง ส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลก DJ +4.89% S&P500 +4.94% Nasdaq +4.95% นำขึ้นโดยกลุ่มเทคโนโลยี ธนาคารฯ พลังงาน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปลงต่อเนื่อง เพราะวิตกผลกระทบเศรษฐกิจจาก COVID-19 โดย CAC40 -1.51% DAX -1.41% FTSE -0.09%

+/ - น้ำมันดิบพุ่ง ทองร่วง: WTI +USD3.23 +10.4% ปิด USD34.36/บาร์เรล Brent +USD2.86 +8.3% ปิด USD37.22/บาร์เรล รับข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ปธน.ทรัมป์ ส่วนทองคำร่วง -USD15.40 ปิด USD1660.3/ออนซ์ จากการขายทำกำไร

ประเด็นสำคัญ

- COVID -19 Update: WHO รายงาน ณ วันที่ 10 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 113,702 ราย (+4,125 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 4,012 ราย (+203 รายใหม่) กระจายไป 109 ประเทศ (+5) โดย 1) จีน มีผู้ติดเชื้อรวม 80,924 ราย (+20) เสียชีวิต 3,140 ราย (+17) 2)นอกจีน มีผู้ติดเชื้อรวม 32,778 ราย (+4,105) เสียชีวิต 872 ราย (+186) โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด คือ อิตาลี 9,172 ราย (+1,797) เกาหลีใต้ 7,513 ราย (+131) อิหร่าน 7,161 ราย (+595) ส่วน USA 472 ราย (+259) ไทย 53 ราย (+3)

- EU: นายกฯ อิตาลีสั่งปิดประเทศชั่วคราวจนถึงวันที่ 3 เม.ย. ห้ามการเดินทางเข้า-ออกและคาดว่าประเทศอื่นๆ ในอียู จะออกมาตรการเข้มงวด เพื่อลดการแพร่ COVID-19

+ จีน: ความเชื่อมั่นว่าจีนสามารถต่อสู้กับการแพร่ระบาดไวรัสได้สำเร็จปรับสูงขึ้น หลังจากปธน.สีจิ้นผิง เยือนหวู่ฮั่นเป็นครั้งแรกวานนี้ รวมถึงการประกาศปิดโรงพยาบาลชั่วคราว 14 แห่งในอู่ฮั่น หลังเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.

+ ญี่ปุ่น: รัฐบาลประกาศมาตรการช่วยเหลือครั้งที่สอง วงเงิน USD4bn เพื่อช่วยเหลือเยียวยา ลดอัตราการล้มละลาย จากผลกระทบ COVID-19

+/ - Oil: รมต.พลังงานรัสเซีย จะจัดการประชุมกับกลุ่มบริษัทน้ามันของรัสเซียวันนี้ เพื่อหารือว่ารัสเซียจะยังคงเป็นพันธมิตรโอเปคหรือไม่ ทำให้ยังไม่ปิดประตูเจรจา เพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ามัน แต่ซาอุฯ เมินต่อท่าทีดังกล่าว

- USA: ตลาดพันธบัตรมีความเสี่ยง เนื่องจากบริษัทสำรวจน้ามันขนาดใหญ่ต่างระดมทุนผ่านตราสารหนี้ high yield bonds และเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ หากราคาน้ำมันดิบดิ่งแรงและเพิ่มโอกาสเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจสูงขึ้น

+ ไทย: ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการระยะที่ 1 จานวน 12 มาตรการ ดูแลผลกระทบเศรษฐกิจและประชาชน วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท

- Fetco: รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือน มี.ค. ลดลง 11.48% มาอยู่ที่ 64.40 จุด อยู่ในเกณฑ์ซบเซาทุกหมวด โดยหมวดท่องเที่ยวฯ ไม่น่าสนใจที่สุด

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจที่ผ่านมา: China –CPI เดือน ก.พ. เป็นไปตามคาด +5.2% YoY (Vs เดือน ม.ค. 5.4%) แม้หมวดอาหารปรับสูงขึ้น +21.9% YoY แต่หมวดที่มิใช่อาหารปรับลดลงจากผลกระทบ COVID-19 ส่วน PPI เดือน ก.พ. ลดมากกว่าคาด -0.4% MoM (Vs คาด -0.3% MoM เดือน ม.ค. 0.1%), EU-4Q19 GDP ตามคาด +0.1% QoQ (Vs 3Q19 +0.3%)

กลยุทธ์: Short Against Port โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: INTUCH JASIF CHAYO

หุ้นแนะนำ Short Against Port: หุ้นบวก>4% BAM JMT CPALL CPF TOP IRPC PTG WHA SPRC CRC MTC TASCO TQM CHG GLOBAL DOHOME BFIT MONO หุ้นลบ>4% PTTEP TU RSP PRIN

Derivatives: เปิด Long S50H20 เก็งกำไร หลังเวลา 10:30 น. และปิดสถานะจบในวัน (อ่านเพิ่มใน KTZ -D)