กห.สั่ง กอ.รมน.-กองทัพ เสริมกำลังพลหนุนคัดกรองและควบคุมโรค COVID-19

กห.สั่ง กอ.รมน.-กองทัพ เสริมกำลังพลหนุนคัดกรองและควบคุมโรค COVID-19

นรม.และรมว.กห. สั่ง กอ.รมน.และกองทัพ เสริมกำลังพลสนับสนุนความเข้มแข็งของระบบคัดกรองและควบคุมโรค ป้องกัน COVID-19

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.63  พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า เมื่อ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห. พร้อมปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมหารือร่วมกับทุกเหล่าทัพ ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อรับทราบสถานการณ์และการสนับสนุน สธ.รับมือกับการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID - 19  

โดยภาพรวมที่ผ่านมา กห.ได้จัดกำลังพลสนับสนุน สธ. ร่วมกระบวนการคัดกรอง แรงงานไทยกลุ่มเสี่ยงที่ทะยอยเดินทางกลับจากเกาหลีใต้ที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐและนำพาเข้าพื้นที่ควบคุมโรคในพื้นที่ ทร. อ.สัตหีบแล้ว จำนวน 63 ราย โดยจะร่วมคัดกรองแรงงานกลุ่มดังกล่าวและส่งเข้าดูแลในพื้นที่ควบคุมที่กำหนดร่วมกับ สธ.อย่างต่อเนื่องไปในทุกเที่ยวบิน

ทั้งนี้ กห.อยู่ระหว่างประสานกับ สธ. เพื่อพิจารณาพื้นที่ควบคุมโรคอื่นๆเพิ่มเติม โดยไม่ให้กระทบต่อสภาพแวดล้อมในพื้นที่ รองรับให้เพียงพอกับปริมาณกลุ่มเสี่ยง และขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติมสำหรับการทำงานในพื้นที่ควบคุมโรคที่จัดตั้งขึ้น

พล.อ.ชัยชาญ  ได้กำชับกับทุกเหล่าทัพว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กห.ได้ย้ำและสั่งการ ขอให้ กอ.รมน.จังหวัด เข้าไปสนับสนุนและร่วมเสริมการทำงานของ สธ.ในพื้นที่ ทั้งการร่วมดูแลคัดกรอง ณ สนามบินนานาชาติในพื้นที่ การเคลื่อนย้ายและการดูแลในพื้นที่ควบคุมโรคที่แต่ละจังหวัดจัดตั้งขึ้น

ขณะเดียวกัน ขอให้ กห.โดยทุกเหล่าทัพ เร่งจัดกำลังพลเพิ่มเติมเข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของ สธ. เพื่อเสริมความเข้มแข็งของระบบและมาตรการคัดกรองในทุกสนามบินนานาชาติภายในประเทศ และประสิทธิภาพในการนำทุกกลุ่มเสี่ยงเข้าระบบควบคุมที่รัฐกำหนด

พร้อมทั้งย้ำ นรม.และรมว.กห.ได้แสดงความห่วงใย และขอเป็นกำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์และกำลังพลที่ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงาน โดยขอให้ระวังป้องกันตัวเองและร่วมกันดูแลสุขภาพ ขณะเดียวกัน ขอให้ร่วมกันสร้างการตระหนักรู้ของประชาชนร่วมกัน ถึงความร่วมมือสนับสนุนการบริหารจัดการของภาครัฐในการรับมือกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งจำเป็นต้องเสียสละ มีเอกภาพและเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมรับผิดชอบตนเองและรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อจำกัดและควบคุมการระบาดของโรคร่วมกันให้ได้ในที่สุด