ลดลง

ลดลง

ถือเงินสด

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Negative และคาดดัชนีฯ ลดลง แนวรับ 1328 / 1300 จุด แนวต้าน 1370 / 1380 จุด ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) –ราคาน้ามันดิบโลกเช้านี้ Brent Future ร่วงกว่า 19% เป็น USD36.51/บาร์เรล หลังจากวันศุกร์ดิ่งแรง 10% เพราะข้อเสนอลดการผลิตน้ามันดิบของโอเปกกับรัสเซียล่ม คาดส่งผลลบแรงต่อราคาหุ้นกลุ่มปตท. (น้ามัน ปิโตรเคมี) แต่เป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ ส่วนกลุ่มสายการบิน ขนส่ง ได้รับผลบวกจากัด เพราะมีปัจจัยลบจาก COVID-19 2) –DJ Future ร่วงกว่า 1 พันจุด ลดลงกว่า 4% เพราะตลาดเกิดภาวะ Risk off และเลือกลงทุนเฉพาะสินทรัพย์ปลอดภัย (พันธบัตรสหรัฐฯ ทองคา) วิตก COVID-19 ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลกและทาให้เกิดเศรษฐกิจถดถอย 3) +ธนาคารกลางโลกเตรียมออกมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม โดย CME Group คาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 50-75bps ในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค. เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย 4) +ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการบรรเทาและกระตุ้นของคลัง ส่วนตลาดหุ้นจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากมาตรการกองทุนSSF ใหม่ (ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 65%) ต้องซื้อภายในเดือน มิ.ย. สามารถหักลดหย่อนภาษีได้วงเงิน 2 แสนบาท 5) Ex-Dividend effect มีผลต่อดัชนีฯ วันนี้ -0.29 จุด (หลักๆ มาจาก TTW HANA)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: Japan-4Q19E GDP คาด-1.7% QoQ (Vs 3Q +0.1% QoQ) Germany-industrial production เดือน ม.ค. คาด +1.7% MoM (Vs เดือน ธ.ค. -3.5% MoM )

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันศุกร์

- ตลาดหุ้นไทยร่วงตามภูมิภาค: ตลาดหุ้นไทยยืนในแดนลบตลอดการซื้อขายก่อนมาปิดที่ 1364.57 จุด -26.26 จุด -1.89% วอลุ่ม 5.22 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำลง ชิ้นส่วนอิเล็กฯ -3.22% ธนาคารฯ -3.17% มีเดีย -3.13% พลังงาน -2.92%

- ตลาดหุ้นโลกปิดร่วง: การหันไปถือเงินสด ทองคำและแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังการประชุมโอเปคกับรัสเซียล่ม เป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นโลก แม้ช่วงท้ายตลาดจะมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มสายการบินช่วยหนุนการรีบาวด์ DJ -0.98% S&P500 -1.71% Nasdaq -1.87% CAC40 -4.14% DAX -3.37% FTSE -3.62% (ทั้งสัปดาห์ ตลาดหุ้นสหรัฐบวก 0.1 -1.79% WoW ตลาดหุ้นยุโรปร่วง 1.79-3.22% WoW)

- น้ำมันดิ่ง ทองบวก: WTI-USD4.62 ปิด USD41.28/บาร์เรล Brent -USD4.72 ปิด USD45.27/บาร์เรล หลังรัสเซียปฏิเสธข้อเสนอโอเปค ส่วนทองคำ +USD4.4 เป็น USD1672.4/ออนซ์ จากแรงซิ้อสินทรัพย์ปลอดภัย (ทั้งสัปดาห์น้ำมันดิบ -10% WoW ทอง +6.75% WoW)

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update: WHO รายงาน ณ วันที่ 8 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 105,586 ราย (+3656 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 3,584 ราย (+98 รายใหม่) กระจายไป 101 ประเทศ (+8) โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด นอกจีน คือ เกาหลีใต้ 7,134 ราย (+637) อิตาลี 5,883 ราย (+1,247) อิหร่าน 5,823 ราย (+1,076)เยอรมนี 795 ราย (+156) ฝรั่งเศส 706 ราย (+93) ญี่ปุ่น 455 ราย (+48) ส่วนสหรัฐฯ 213 ราย (+0) ไทย 50 ราย (+2)

+ FOMC Meeting วันที่ 17-18 มี.ค.: CME Group ให้โอกาส 61.5% และ 38.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 75/50 bps เป็น 0.25-0.5% และ 0.5-0.75% ในการประชุมรอบนี้ (Vs วันพฤหัสฯให้โอกาส 84%ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 50bps)

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจที่ผ่านมา: -China ดุลการค้าเดือน ม.ค.-ก.พ. พลิกขาดดุล -USD7.09bn (Vs คาดเกินดุล USD24.6bn, เดือน ธ.ค. +USD47.21bn) ส่งออก -17.2% YoY (Vs คาด -14% YoY เดือน ธ.ค. +7.9%) นำเข้า –4% YoY (Vs คาด -15% YoY, เดือน ธ.ค. 16.5%)

+USA: การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ. สูงกว่าคาด +273k (Vs คาด 175k, เดือน ม.ค. 273k) อัตราว่างงานลดลงเหลือ 3.5% จาก 3.6%

- OPEC Meeting: ราคาน้ำมันดิบร่วงต่ำสุดรอบ 3 ปี หลังการประชุมระหว่างโอเปคและพันธมิตรล่ม และตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป รัสเซียสามารถผลิตโดยไม่มีโควตา เพราะสิ้นสุดมาตรการลดการผลิตชั่วคราวเดิม 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2019

- ไทย: เลขาครม.เศรษฐกิจ กอบศักดิ์ ภูตระกูล คาด 1Q20E GDP เติบโตต่ำคาด ส่วนระยะยาวสถานการณ์ COVID-19 จบใน 6 เดือน และอีก 3 เดือน สร้างความมั่นใจ

+ ไทย: ครม.เศรษฐกิจเห็นด้วยกับคลังและเตรียมเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเสนอครม.วันอังคาร เสนอเงื่อนไขหักลดหย่อนภาษีให้ SSF ใหม่ วงเงินไม่เกิน 2 แสนบาท

กลยุทธ์: ถือเงินสด

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: INTUCH JASIF CHAYO

หุ้นโมเมนตัมบวก: หุ้นกลุ่ม REIT / สายการบิน AAV / TASCO / รับเหมาฯ STEC

หุ้นโมเมนตัมลบ: กลุ่มพลังงาน ตระกูล PTT / กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ KBANK SCB BBL