'สุวิทย์' เล็งชง ครม.มาตการช่วยเหลือผู้รับผลกระทบ COVID-19

'สุวิทย์' เล็งชง ครม.มาตการช่วยเหลือผู้รับผลกระทบ COVID-19

“รมว.การอุดมศึกษาฯ” ชง ครม.10 มี.ค.นี้ ช่วยผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จับมือ 50 มหาวิทยาลัยจัดทำหลักสูตรสารพัดอาชีพระยะสั้น 7 วัน พัฒนาทักษะ สร้างรายได้ ระบุผู้เข้ารับการอบรมได้วันละ 300 บาท

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10  มี.ค.นี้ อว.จะเสนอมาตรการการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์โควิด-19 ต่อที่ประชุม โดยให้มีการพัฒนาทักษะผู้ที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น มัคคุเทศก์ พนักงานโรงแรม เป็นต้น กับ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมและประชาชนทั่วไป โดยจะมีหลักสูตรให้ได้เข้าอบรมและพัฒนาทักษะ

สำหรับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จะมีหลักสูตรภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ การจัดการท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การใช้สื่อดิจิทัลเพื่อการท่องเที่ยว การจัดการประชุมสมัยใหม่ เทคนิคการเล่าเรื่อง เป็นต้น ส่วนกลุ่มบุคคลทั่วไปจะมีหลักสูตรการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย การเป็นผู้ค้า ให้บริการพื้นที่หรือสื่อกลางผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน เพื่อเป็นช่องทางซื้อขายสินค้าหรือบริการ การบริการหลังการค้าผ่านออนไลน์ การทำธุรกิจสร้างสรรค์ การทำอาหารสุขภาพ การออกแบบกราฟฟิกเพื่อธุรกิจ การแปรรูปสิ่งเหลือทิ้งทางการเกษตร เป็นต้น

แต่ละหลักสูตรจะใช้เวลา 7 วันต่อเนื่อง 18 รุ่นหรือ 18 สัปดาห์ต่อเนื่อง เริ่ม เม..เป็นต้นไป โดยมีหน่วยฝึกอบรมในมหาวิทยาลัย 50 แห่ง โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัราชภัฏทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับเงินสนับสนุนการเรียนวันละ 300 บาท ทุกการอบรมจะจัดที่โรงแรมเพื่อช่วยเหลือธุรกิจโรงแรม และทุกการอบรมจะมีการศึกษาดูงานเพื่อช่วยเหลือธุรกิจรถเช่า ที่สำคัญประมาณ 40% ของผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับทุนสนับสนุนการประกอบธุรกิจใหม่ ประมาณ 30,000 - 50,000 บาทต่อรายและเข้ารับการบ่มเพาะกับมหาวิทยาลัย

อว.ยังเตรียมแผนสนับสนุนการรับมือสถานการณ์ โควิด-19 ในภาวะฉุกเฉินด้วย โดยมอบให้ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (เอ็นไอเอ) เป็นแม่งานการประชุมเพื่อพัฒนาระบบติดตามและตรวจสอบคนที่เดินทางเข้าประเทศทั้งหมดตั้งแต่ผ่าน ตม.โดยให้ผู้ที่เดินทางทั้งหมดติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้ทราบตำแหน่งและรายงานผลแบบทันทีบนแผนที่ โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จะสนับสนุนระบบประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ การใช้ระบบการแพทย์และสุขภาพทางไกล เพื่อช่วยในคัดกรองวินิจฉัยเบื้องต้น การจัดทำระบบแสดงตำแหน่งและจัดส่งสิ่งจำเป็นทางการแพทย์ การพัฒนาแผนที่แสดงตำแหน่งที่จำหน่ายหน้ากากเพื่อให้ประชาชนทราบและสามารถซื้อได้ รวมถึงแผนที่แสดงตำแหน่งห้องน้ำที่มีความปลอดภัย รวมถึงวิธีการกระจายหน้ากากอนามัย เป็นต้น