‘ไวรัสโคโรน่า’ สะเทือนวิถีมิตรภาพ
สำรวจความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวัฒนธรรม-ประเพณีของหลายประเทศทั่วโลก หลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 จนต้อง "งดเว้น" ธรรมเนียมบางอย่างเป็นการชั่วคราว
ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ต้นกำเนิดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ของจีน แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลโดยไม่ต้องสงสัย ยิ่งกว่านั้นคือไวรัสยังส่งผลกระทบไปในทุกมิติของชีวิต ไม่เว้นแม้แต่ธรรมเนียมการทักทายซึ่งเป็นวิถีแห่งมิตรภาพ
ตอนนี้ประชาชนทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน และการปฏิบัติศาสนา เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสไวรัส และป้องกันไม่ให้แพร่กระจายออกไป ช่วงนี้ผู้คนหลีกเลี่ยงไม่จับมือ ไม่เอาแก้มชนแก้ม ไม่กอด แต่หันมามองตาหรือโบกมือทักทายกันแทน
สำนักข่าวเอเอฟพีรวบรวมพฤติกรรมคนทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะไวรัสโคโรน่า คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 3,387 คน นับถึงบ่ายวานนี้ (6 มี.ค.)
- จีน
กรุงปักกิ่ง ติดตั้งป้ายไม้สีแดงประกาศเตือนประชาชนไม่ให้จับมือทักทาย แต่ให้เจ้าตัวประสานมือของตนเองเป็นสัญลักษณ์ของการทักทายแทน รวมทั้งมีลำโพงคอยประกาศให้ประชาชนทักทายกันด้วยการนำกำปั้นแตะฝ่ามืออีกข้างตามธรรมเนียมโบราณ
- ฝรั่งเศส
บนหน้าหนังสือพิมพ์เต็มไปด้วยคำแนะนำวิธีการทักทายแบบใหม่ๆ แทนการจูบแก้มที่คนฝรั่งเศสทำกันเป็นปกติวิสัยแม้แต่กับคนเพิ่งรู้จักก็ทักทายกันแบบนี้ ส่วนการจับมือเป็นวิธีการที่ใช้กันทั่วไปในที่ทำงาน
ฟิลิปเป ลิคฟูส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาทสังคมที่สื่อนำไปอ้างถึงอย่างกว้างขวาง กล่าวว่า การจับมือเป็นพัฒนาการที่ค่อนข้างใหม่ เริ่มต้นขึ้นในยุคกลาง ตอนนี้แค่มองตากันก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการทักทาย
- บราซิล
กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ประชาชนไม่ใช้หลอดเหล็กดื่ม “ชิมาเฮา” เครื่องดื่มยอดนิยมร่วมกัน ส่วนการจูบ แม้ไม่ได้จูบปากก็ห้ามกระทำ
- เยอรมนี
คณะรัฐมนตรีไม่ตกยุค การประชุมวันก่อนนายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล เดินตรงเข้ามาจะจับมือกับฮอร์สต์ ซีโฮเฟอร์ รัฐมนตรีมหาดไทย แต่เขาปฏิเสธไม่ยอมจับด้วยได้ ส่วนแมร์เคิลแม้จะหน้าแตกนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจ ทุกคนในที่ประชุมได้แต่หัวเราะกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
- สเปน
การระบาดส่งผลกระทบต่อประเพณีที่ชาวสเปนให้ความสำคัญมากที่สุดอันหนึ่ง นั่นคือการจูบรูปปั้นพระแม่มารีผู้บริสุทธิ์ ในสัปดาห์ก่อนถึงวันอีสเตอร์ ระหว่างสัปดาห์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ ผู้ศรัทธาพากันเข้าแถวยาวเหยียดรอจุมพิตมือหรือเท้าของรูปปั้นพระแม่มารีและนักบุญอื่นๆ ขอให้พระองค์คุ้มครอง
แต่งานก็ถูกยกเลิกก่อนถึงกำหนดจัด 1 เดือน เฟอร์นันโด ไซมอน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแห่งชาติสเปน เผยว่าเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด
- โรมาเนีย
การเฉลิมฉลองเทศกาลมาร์ติเซอร์ หรือการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ผู้คนจะมอบช่อดอกไม้นำโชคให้แก่กัน ส่วนใหญ่ผู้ชายมักมอบให้ผู้หญิง แต่ปีนี้รัฐบาลโรมาเนียโดยกระทรวงสาธารณสุขส่งข้อความถึงประชาชนว่าแค่ส่งดอกไม้ก็พอ “ไม่ต้องแถมจูบ”
- โปแลนด์
ประเทศที่มีชาวคาทอลิกมากที่สุดประเทศหนึ่งของยุโรป พิธีรับศีลมหาสนิทผู้ศรัทธาได้รับอนุญาตให้รับศีลทางจิตวิญญาณแทนการรับประทานขนมปัง หรือแค่ใช้มือรับขนมปังโดยไม่ต้องนำเข้าปาก นอกจากนี้เมื่อผู้ศรัทธาเข้าออกจากโบสถ์ก็ไม่ต้องจุ่มมือลงในน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่ให้ใช้มือทำสัญลักษณ์รูปกางเขนแทน
- อิหร่าน
คลิปวิดีโอที่แชร์กันจนเป็นไวรัล เล่าถึงงานพบปะกันของ 3 เกลอ 2 คนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง สวมหน้ากากอนามัย ทั้งหมดแตะเท้ากันเป็นการทักทาย
ในเลบานอนก็มีวีดิโอแบบเดียวกันนี้ด้วยเหมือนกัน นักร้องนาม “ราเกบ อลามา” ทักทายดาวตลก "มิเชล อาบู สไลมาน" ด้วยการแตะเท้า แล้วทำเสียงจุ๊บขึ้นจมูก
ตอนที่โมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปค พบกับอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีน้ำมันรัสเซีย ในการประชุมโอเปคที่กรุงเวียนนาของออสเตรียเมื่อวันก่อน ทั้งคู่ก็ใช้วิธีแตะเท้ากันเบาๆ เพื่อสุขอนามัย ไม่ต้องจับมือให้เสี่ยงโรค
- นิวซีแลนด์
สถาบันการศึกษาหลายแห่งห้ามชั่วคราวไม่ให้ทักทายกันแบบเมารีที่ต้องเอาจมูกมาแตะกัน
วิทยาลัยโพลีเทคนิคเวลเทคในกรุงเวลลิงตัน แนะนำให้เจ้าหน้าที่ทักทายนักศึกษาใหม่ในพิธีรับน้องด้วยการร้องเพลงเมารีแทน
- ออสเตรเลีย
แบรด ฮัสซาร์ด รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ เรียกร้องให้ชาวออสเตรเลียระวังเรื่องการจูบ พร้อมแนะให้แตะหลังกันแทนการจับมือ
“มีอีกหลายวิธีที่เราจะทักทายกัน ผมไม่ได้บอกว่าห้ามจูบแต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังและใส่ใจหากคุณเลือกทักทายด้วยการจูบ” รัฐมนตรีเตือนด้วยความหวังดี
- สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
ยูเออีและกาตาร์ แนะนำประชาชนอย่าทักทายกันตามธรรมเนียมเดิมที่ต้องเอาจมูกชนจมูก ยูเออีถึงขนาดห้ามจับมือหรือจุมพิต “แค่โบกมือให้กันอย่างเดียวเท่านั้น”
- สหรัฐ
ดาวเด่นบาสเกตบอลเอ็นบีเอได้รับคำแนะนำมากมายถึงการปฏิบัติกับแฟนๆ เช่น เอากำปั้นแตะกันแทนการแตะฝ่ามือแบบไฮไฟว์ หลีกเลี่ยงการรับสิ่งของ เช่น ปากกา ลูกบาส หรือเสื้อมาเซ็นชื่อ
นักกีฬาบางคนก็ควบคุมการสัมผัสกับไวรัสไปแล้ว เช่น ซีเจ แมคคอลลัม จากทีมพอร์ตแลนด์เทรลเบลเซอร์ส ประกาศว่าจะไม่แจกลายเซ็นอีกต่อไป
“อย่าลืม...ล้างมือด้วยสบู่ 20 วินาที เวลาไอปิดปากด้วย” เจ้าตัวทวีตข้อความถึงแฟนคลับ
- ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบหนักจากไวรัสโคโรน่า เรื่องเศรษฐกิจไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้ลามมาถึงวิถีแห่งความรื่นรมย์ชมธรรมชาติด้วย
บริษัทพยากรณ์อากาศ “เวทเธอร์นิวส์” คาดว่าดอกซากุระในกรุงโตเกียวจะบานในวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งตามธรรมเนียมชาวญี่ปุ่นมักจะไปปิกนิกกันในสวนใต้ต้นซากุระ เพื่อชื่นชมความงามตามธรรมชาติ แต่รัฐบาลท้องถิ่นกรุงโตเกียวประกาศว่า การปิกนิกดังกล่าวเสี่ยงกระจายไวรัส เพราะผู้คนไปรวมตัวกันมาก ทางการกรุงโตเกียวจึงขอให้ประชาชนงดเว้นจัดปิกนิกชมซากุระที่ต้องมีอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด การเดินชมซากุระยังทำได้ แต่ผู้ที่มีอาการไอต้องสวมหน้ากากด้วย
ฤดูซากุระบานถือเป็นช่วงเวลาที่ทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติรอคอย หลายคนวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ ดอกซากุระเป็นสัญลักษณ์ถึงความบอบบางของชีวิตในวัฒนธรรมญี่ปุ่น เพราะดอกจะบานอยู่แค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นแล้วก็ปลิดปลิวจากต้นไป
เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศแล้วประจักษ์ชัดว่า ไวรัสโคโรน่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และยังไม่ทราบว่าจะป่วนโลกไปอีกนานแค่ไหน