ปรับสูงขึ้น

ปรับสูงขึ้น

เก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Positve และคาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวรับ 1366 / 1360 จุด แนวต้าน 1400 / 1410 จุด ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรงกว่า 4% รับข่าวผลเลือกตั้งตัวแทนพรรคเดโมแครตใน Super Tuesday วานนี้ พบว่า โจ ไบเดน มีโอกาสเป็นผู้ชนะ (เป็นบวกต่อ Wall Street เพราะมีนโยบายไม่เข้มงวดเหมือนคู่แข่ง Sanders) 2) คลังเตรียมชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้านบาท เสนอครม.เศรษฐกิจ ในวันพรุ่งนี้ ทั้ง Helicopter money และอาจปรับเกณฑ์กองทุน SSF เหมือนกับ LTF ฯลฯ 3) Ex-Dividend effect มีผลต่อดัชนีฯ วันนี้ -0.56 จุด (หลักๆ มาจาก GULF SVH)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA-Factory Orders เดือน ม.ค., ไทย-เงินเฟ้อเดือน ก.พ.,

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย: ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดของวัน ที่ 1358.24 จุด -16.78 จุด ก่อนที่จะแรลลี่ขึ้นในช่วงที่เหลือของการซื้อขายก่อนมาปิดที่ 1378.61 จุด +3.59 จุด +0.26% วอลุ่ม 5.83 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำขึ้น คือ เกษตรฯ +4.99% รับเหมาฯ +1.43% อสังหาฯ +1.08% กลุ่มลดลง คือ พลังงาน-0.73%

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรงรับข่าวโจ ไบเดน มีคะแนนนำในการเลือกตัวแทนพรรคเดโมแครต Super Tuesday วานนี้ DJ +4.53% S&P500 +4.22% Nasdaq +3.85% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปรับสูงขึ้น ลุ้น ECB ผ่อนคลายมาตรการการเงินเหมือนเฟด CAC40 +1.33% DAX +1.19% FTSE +1.45%

- น้ำมันปิดและทองคำปิดลดลง: WTI -USD0.40 ปิดที่ USD46.78/บาร์เรล Brent -USD0.73 ปิดที่ USD51.13/บาร์เรล รอลุ้นผลประชุมโอเปคและพันธมิตร และทองคำย่อตัว -USD1.40 เป็น USD1643/ออนซ์ จากการขายทำกำไร

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update: WHO รายงาน ณ วันที่ 4 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 93,090 ราย (+2,223 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 3,198 ราย (+86 รายใหม่) กระจายไป 76 ประเทศ (+4) โดย 1) จีน มีผู้ติดเชื้อรวม 80,422 ราย (+120) เสียชีวิต 2,984 ราย (+38) 2) นอกจีน มีผู้ติดเชื้อรวม 12,668 ราย (+2,109) เสียชีวิต 214 ราย (+48) โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด คือ เกาหลีใต้ 5,328 ราย (+516) อิตาลี 2,502 ราย (+466) อิหร่าน 2,336 ราย (+835) ญี่ปุ่น 284 ราย (+16) ส่วนสหรัฐฯ 108 ราย (+44) ไทย 43 ราย (+0)

+ IMF: เตรียมเม็ดเงิน USD50bn ไม่มีดอกเบี้ย ให้ความช่วยเหลือทันทีต่อประเทศที่มีรายได้ต่ำและประเทศตลาดเกิดใหม่ เพื่อต้านการแพร่ระบาดของ COVID-19

+/- Opec meeting: กลุ่มโอเปคและพันธมิตรเริ่มประชุมวันแรกวันนี้ โดยจะเป็นลบต่อราคาน้ำมันดิบโลกหากน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ USA: Super Tuesday เลือกตัวแทนพรรคเดโมแครต 14 รัฐใหญ่ วานนี้ พบว่า โจ ไบเดน มีคะแนนนำคู่แข่ง แซนเดอร์ หลังจากมีชัยชนะในรัฐใหญ่

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: ไทย-เงินเฟ้อ เดือน ก.พ. คาด 0.77% YoY (Vs เดือน ม.ค. 1.05%) Core Inflation เดือน ก.พ. คาด 0.5% YoY (Vs เดือน ม.ค. 0.47%) USA-Factory Orders เดือน ม.ค. คาด -0.1% MoM (Vs ธค.+1.8%)

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจที่ผ่านมา: 1) รายงานภาคบริการเดือน ก.พ.ของ-จีน (Caixin) ดิ่งแรงเป็น 26.5 (Vs เดือน ม.ค. 51.8)*Japan (Jibun Bank) ใกล้เคียงคาดที่ 46.8 (Vs เดือน ม.ค. 51) +EU (Markit) ภาคบริการ เดือน ก.พ. ดีขึ้นเป็น 52.6 Vs เดือน ม.ค. 52.5 +USA (ISM) ภาคบริการ เดือน ก.พ. สูงกว่าคาดและสูงสุดรอบปี เป็น 57.3 Vs เดือน ม.ค. 55.5 โดยได้แรงหนุนจากคาสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน 2) +USA-การจ้างงานภาคเอกชน เดือน ก.พ. สูงกว่าคาด (เพิ่มขึ้น 183k Vs คาด 155k, เดือน ม.ค. 209k) 3) USA Fed Beige Book ส่งสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัว ปานกลาง

+ ไทย: คลังเตรียมเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดแรก วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท (0.63% ของGDP) มีผลภายใน 3-4 เดือน เสนอครม. แบ่งเป็น 1) แจกเงิน 1-2 พันบาท ให้กับ ผู้มีรายได้น้อย มนุษย์เงินเดือน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร 2) ให้สศค. และกรมสรรพากรหารือตลาดหลักทรัพย์ ปรับเกณฑ์กองทุน SSF ให้ใช้เหมือนกับ LTF เพื่อเป็นมาตรการหนุนตลาดหุ้น 3) การให้ Soft Loan ดอกเบี้ยต่ำแก่ SMEs ฯลฯ

กลยุทธ์: เก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: STEC TU TTW

หุ้นโมเมนตัมบวก: หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ / หุ้นอิงการบริโภค ค้าปลีก / หุ้นที่มีกระแสซื้อแรง วานนี้: BAM CRC PTG BFIT STA DIF DTAC APCO CHAYO SISB LPN AU

หุ้นโมเมนตัมลบ: PLANB SPRC

Derivatives: ถือสถานะ Long S50H20 ที่ได้เปิดไว้ทุน 920 จุด (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)