"ฟื้นตัว"ต่อเนื่อง หลังทดสอบ 1360 จุด แล้วยืนได้

"ฟื้นตัว"ต่อเนื่อง หลังทดสอบ 1360 จุด แล้วยืนได้

ตลาดหุ้นโลกตอบรับการดำเนินงานของธนาคารกลางต่างๆ

จะดำเนินมาตรการตามธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน และมาตรการต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือความเสี่ยงของไวรัสโคโรนาที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจจริงในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า ขณะที่คาดธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลงอีก 0.10% จากระดับ -0.50% ในปัจจุบัน สำหรับหุ้นสหรัฐฯ กลับมาบวกแรง หลัง โจ ไบเดน ซึ่งเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิปดี ที่มีแนวคิดทุนนิยม ชนะการเลือกตั้ง Super Tuesday เหนือคู่แข่งอีก 2 คน ที่มีแนวคิดสังคมนิยมกว่า โดยการสะสมคะแนนเลือกตั้งจากรัฐต่างๆจะดำเนินไปจนกว่าจะได้คะแนนเด็ดขาด และไม่เกิน มิ.ย.63

กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการสู้วิกฤตโคโรนา เพื่อห้ครม.เศรษฐกิจพิจารณาศุกร์นี้ วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท ประกอบด้วยมาตรการแจกเงินให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มอาชีพอิสระราว 10 ล้านคน, การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ภาคธุรกิจ และมาตรการช่วยเหลือภาคท่องเที่ยวอื่นๆ ทั้งนี้การอัดฉีดดังกล่าว รวมทั้งการสั่งเร่งเบิกข่ายงบประมาณปี 2563 คาดสร้างจิตวิทยาเชิงบวกให้กับหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภค อาทิ CPALL, CRC, BJC ทั้งนี้ติดตามการประมูลเข้าซื้อ Tesco ที่ใกล้ได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ นอกจากนี้เรายังมองมาตรการจะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงแรมและนิคมอุตสาหกรรม

กลุ่มประกันภัยน่าสนใจ แม้ธุรกิจประกันอาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากอัตราผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวที่ลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตร อย่างไรก็ตามธุรกิจประกันภัยมีความเสี่ยงในการลงทุนต่อที่ต่ำกว่าประกันชีวิต เนื่องจากเบี้ยที่มีการปรับทุกปี และไม่มีภาระผูกพันระยะยาวเช่นประกันชีวิต ขณะที่สถานการณ์ความกังวลไวรัสโคโรนา ทำให้ผลตอบรับจากการขายประกันภัยออกมาดี และความตระหนักในสุขภาพ ทำให้คนดูแลตนเอง จะทำให้ความเสี่ยงด้านรายจ่ายอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ในกลุ่มนี้เราชอบ TIP และ THRE

หุ้นที่มีโอกาสฟื้นตัวดี หุ้นไทยปรับลดลง 15% YTD เราประเมินหุ้นหลายตัวมีภาวะขายมากเกินและมีโอกาสฟื้นตัวหลังตลาดรับรู้ปัจจัยลบส่วนใหญ่ จนน่าจะอยู่ในจุดต่ำสุดทางจิตวิทยา หุ้นที่น่าสนใจเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทน 15-20% ได้แก่ TOP, TMB, WHA, BPP, MINT, ERW, CRC นอกจากนี้หุ้นที่กระแสเงินสดมั่นควและปันผล คาดจะให้ผลตอบแทนที่มั่นคง ได้แก่ ADVANC, INTUCH, WHAUP, GUNKUL, SSP

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้ภาพระยะกลางยังเสี่ยงในขาลง แต่การผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย จะช่วยสร้าง sentiment บวกต่อการฟื้นตัวจากภาวะขายมากเกิน เก็งกำไรเลือกหุ้นที่ลงมามาก ลงทุนเลือกหุ้นที่มีกระแสเงินสดที่มั่นคงหรือการจ่ายปันผลได้สูงในช่วงที่รอพัฒนาการเรื่องการระบาดคลี่คลาย // หุ้นแนะนำวันนี้ BPP*, WHA* / ทยอยสะสม WHAUP* / เก็งกำไร TIP* (เป้า 28 ตัดขาดทุน 22.40)

แนวรับ 1360 จุด / แนวต้าน : 1400-1420 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%.

ประเด็นการลงทุน

ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ สูงสุดในรอบ 1 ปี – ผลสำรวจ ISM เผย ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.3 ในเดือน ก.พ. สูงสุดในรอบ 1 ปี และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 54.9

คองเกรสฯ ตั้งกองทุนฉุกเฉินสกัด Covid-19 ระบาด – สภาคองเกรสประกาศจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินวงเงิน $7.767 พันล้าน ในการสกัดการแพร่ระบาดของเชิ้อไวรัส Covid-19 โดยเม็ดเงินราว 85% จะนำมาใช้สำหรับโครงการในประเทศ

ปรับเกณฑ์ SSF เป็น LTF ช่วงสั้น สู่วิกฤต – รมว.คลัง สั่ง สศค.-สรรพากร หารือ ตลท.ปรับเกณฑ์กองทุน SSF ใช้ตาม LTF เดิม เป็นมาตรการระยะสั้นสู้วิกฤต Covid-19

อุ้มสายการบิน – คมนาคม เคาะมาตรการอุ้มสายการบิน ลดค่า Landing-ค่าจอด 50% พร้อมขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน

ประเด็นติดตาม: 5 มี.ค. – Beige Book, TH CPI เดือน ก.พ., OPEC meeting / 6 มี.ค. – TH consumer confidence เดือน ก.พ., US employment report / 25 มี.ค. ประชุม กนง.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)