‘บลูมเบิร์ก’ถอนตัวศึกชิงปธน.สหรัฐ

นายไมเคิล บลูมเบิร์ก อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังประสบความพ่ายแพ้ในศึก“ซูเปอร์ ทิวส์เดย์” ซึ่งเป็นการเลือกตั้งแบบไพรมารีของพรรคเดโมแครตใน 14 รัฐทั่วสหรัฐ เพื่อสรรหาผู้ที่จะเป็นตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.

แต่นายบลูมเบิร์กประกาศว่า เขาจะสนับสนุนให้นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน

ที่ผ่านมา นายบลูมเบิร์กประกาศว่า จะขายสำนักข่าวบลูมเบิร์ก หากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก สร้างรายได้ให้แก่นายบลูมเบิร์กมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ขณะที่เขามีสินทรัพย์ทั้งหมดราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนมากมีความเห็นว่า นักลงทุนชื่นชอบนโยบายทางสายกลางของนายไบเดน ซึ่งแตกต่างจากนายเบอร์นี่ แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ และนางเอลิซาเบธ วอร์เรน ซึ่งมีแนวโน้มใช้นโยบายทางเศรษฐกิจที่สุดโต่ง

นายแซนเดอร์ส เสนอให้มีการเพิ่มภาษีคนรวย และนำรายได้ดังกล่าวเข้าสู่กองทุนที่จะให้สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลแก่ทุกคน ซึ่งนโยบายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบริษัทในธุรกิจรักษาสุขภาพของสหรัฐ ขณะที่นางวอร์เรน เสนอให้ธนาคารและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ลดขนาดองค์กรลง โดยการขายกิจการบางส่วนออกไปเพื่อลดการครอบงำตลาด รวมทั้งเสนอให้มีการขึ้นภาษีต่อภาคธุรกิจ

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า อดีตรองประธานาธิบดีสายกลางรายนี้จะชนะการหยั่งเสียงอย่างน้อย 9 รัฐ หรืออาจถึง 10 รัฐ ได้แก่ รัฐเวอร์จิเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, แอละแบมา, โอคลาโฮมา, เทนเนสซี, อาร์คันซอ, แมสซาชูเซตส์ และมินนิโซตา นอกจากนี้ไบเดน ยังมีคะแนนนำห่างแซนเดอร์สในรัฐเทกซัส ซึ่งมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งมากเป็นอันดับ 2 ของรัฐที่หยั่งเสียงในวันนี้ รองจากแคลิฟอร์เนียที่แซนเดอร์สได้ไป