เจ้าสัวใหญ่สวนเศรษฐกิจ ระดมทุนซื้อเทสโก้ฯ

เจ้าสัวใหญ่สวนเศรษฐกิจ   ระดมทุนซื้อเทสโก้ฯ

ข่าวร้าย ข่าวลบ ปัจจัยเสี่ยงระบาดหนักจนทำให้เศรษฐกิจไทยส่อเค้าอาการ ‘โคม่า’ ทำให้ช่วงนี้คอร์ปอเรทเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เกือบทุกแห่งต้องเก็บเนื้อเก็บตัว ดูแลสภาพคล่องของตัวเองเอาไว้ให้ดี

      เพราะไม่รู้สถานกาณ์จะไปถึงวิกฤติเหมือนที่เคยเผชิญอย่างปี 2540 หรือ ปี 2551 แค่ไหน

      วิกฤติที่เกิดขึ้นย่อมมีผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งวันนี้เรื่องโรคระบาดทำเอาทุกธุรกิจทรุดจนไม่น่าจะมีธุรกิจไหนที่รอดไปได้ หากแต่คงใช้ไม่ได้กับเจ้าสัว’ เจริญ สิริวัฒนภักดี’ ของกลุ่มทีซีซี ที่ใช้จังหวะและโอกาสทำแต้มต่อให้กับธุรกิจ

     ก่อนหน้านี้ที่ไวรัสจะระบาดประเด็นการขายสินทรัพย์ของไฮเปอร์ มาร์เก็ต(Hypermarket) ขนาดใหญ่ในไทย อย่าง เทสโก้โลตัส เป็นที่สนใจ เพราะรายชื่อกลุ่มที่จะเข้าประมูล คือ กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่ม ทีซีซี และกลุ่มซีพี

     สองรายแรกประกาศต่อสาธาณะเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะเข้าร่วมประมูลด้วยและเตรียมส่งราคาประมูลรอบสองอีกด้วย คงเหลือแต่กลุ่มซีพีที่ปิดเงียบ แต่มีการคาดการณ์ว่าไม่น่าจะพลาดเพราะเทสโก้ โลตัส เปรียบเสมือนลูกที่เป็นผู้ก่อตั้งแต่แรกเริ่มแต่ต้องจำใจขายออกไปให้ต่างชาติในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง

    รอบนี้แม้จะไม่มีการออกมาประกาศว่าจะเข้าร่วมแต่ด้วยสายสัมพันธ์กับผู้ถือหุ้นใหญ่ฝั่งอังกฤษเชื่อว่าน่าจะส่งหนังสือเชื้อเชิญให้กลุ่มซีพีเข้าร่วมประมูลด้วยแน่นอน

    ตามกำหนดการทางผู้ถือหุ้นใหญ่ฝั่งอังกฤษจะเปิดประมูลขายสินทรัพย์ในไทยและมาเลเซียตีมูลค่า 9,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเกือบ 3 แสนล้านบาท ซึ่งกระบวนการไปสู่รอบยื่นซองประมูลครั้งที่ 2 ในเดือนมี.ค. และเป็นที่คาดการณ์ว่าน่าจะรู้ผลคือเดือนมี.ค.

    หากแต่อะไรๆ ดูจะเจอโรคเลื่อนจากไวรัสโควิด-19 ทำพิษ ได้หมดมีโอกาสที่การประมูลอาจจะเลื่อนออกไป รวมไปถึงราคาประมูลที่ต้องมาประเมินใหม่ว่าในช่วงที่เศรษฐกิจไทยและโลกกำลังสุ่มเสี่ยงอยู่ในภาวะถดถอย ราคาจะสู้กันระห่ำไหวไหม

    ปรากฎรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศระบุแหล่งข่าวใกล้ชิดกลุ่มใกล้ชิดเปิดเผยว่า กลุ่ม ทีซีซี เตรียมความพร้อมในการประมูลครั้งนี้ด้วยการจัดหาเงินกู้ระยะสั้น 2 ปี มูลค่า 3.14 แสนล้านบาท เพื่อรองรับกรณีที่อาจจะเป็นผู้ชนะการประมูลซื้อเทสโก้ โลตัส

    ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เข้ามาดึงความสนใจ ได้ไม่น้อยเพราะหากเป็นไปตามที่รายงานนั้นหมายความว่าทางกลุ่มทีซีซีพร้อมจะสู้ที่ในการยื่นซองประมูล สอดคล้องกับกลุ่มเซ็นทรัลที่นายใหญ่ ‘ทศ จิราธิวัฒน์ ‘ ประกาศชัดเจนหลังนำ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เข้าตลาดหุ้นไปเรียบร้อยแล้วว่าเตรียมเข้าร่วมประมูลรอบที่ 2 เช่นกัน

    เฉพาะกลุ่ม ทีซีซี ที่ออกตัวแรงกว่าใครเพื่อน เพราะให้ลูกเขย ‘อัศวิน เตชะเจริญวิกุล’ นั่งแท่นบริหารบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ว่าจะสนใจเข้าประมูล เพื่อเสริมกับธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มีอยู่ในมือ ‘บิ๊กซี’

    อดีต BJC ต้องกู้เงินเพื่อมาซื้อ บิ๊กซี ใช้เม็ดเงิน 2 แสนล้านบาท ในปี 2559 ส่งผลทำให้หลังจากนั้น BJC มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) พุ่งขึ้นแตะ 11.85 เท่า จนทำให้เกิดความกังวลใจจะกระทบผลดำเนินในอนาคตจากการแบกภาระต้นทุนทางการเงิน เพราะเป็นการกู้เงินมากกว่า 90 % ของมูลค่าประมูลซื้อมาได้

    อย่างไรก็ตามปี 2560 เป็นต้นมา BJC เร่งขยายและปูพรมบิ๊กซีสร้างรายได้มากขึ้นด้วยการลงทุนปีละหมื่นล้านบาทดันสาขาสิ้นปี 2562 รวมทั้งหมดกว่า1,300สาขา แบ่งเป็นรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต151สาขา ซูเปอร์มาร์เก็ต62สาขา มินิบิ๊กซี1,016สาขา และเพียว145สาขาและเมื่อรวมงบการเงินเข้ามาทำให้

    ส่งผลทำให้กระแสเงินสดดีขึ้นมีเงินสดในมือ 6,000 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA ปีละ 22,000 หมื่นล้านบาท D/E ลงมาเหลือ 1.3 เท่า ทำให้เปิดกว้างในการกู้เงินรอบใหม่ได้ไม่ยาก ยิ่งในช่วงภาวะดอกเบี้ยต่ำ แบงก์พร้อมปล่อยวงเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการายใหญ่มากกว่ารายเล็กที่อาจจะกลายเป็นหนี้เสียได้มากกว่า ทำให้กลายเป็นโอกาสในวิกฤติสำหรับเจ้าสัว

หากแต่ข่าวนี้ยังต้องมองในหลายมุม ยิ่งในช่วงกำลังประเมินชิงไหวชิงพริบราคาประมูลรอบสองซื้อเทสโก้ โลตัส ดันมีข่าวหลุด หรืออาจเป็นข่าวปล่อย มาเขย่าขวัญคู่แข่ง เป็นไปได้ ....