สภาลมหายใจ เชียงใหม่ ขอรัฐบาลยกระดับแก้ PM2.5

สภาลมหายใจ เชียงใหม่ ขอรัฐบาลยกระดับแก้ PM2.5

สภาลมหายใจเชียงใหม่ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอรัฐบาลยกระดับแก้ไขฝุ่นควันช่วงวิกฤต ขณะที่รัฐไม่กระจายการแก้ไขปัญหาไปยังต่างจังหวัด แตกต่างจาก กทม. หากเกิดฝุ่นควันจะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ระบุยังไม่เห็นแผนการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 63 นายชัชวาล ทองดีเลิศ ประธานคณะกรรมการ อำนวยการ สภาลมหายใจเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสภาลมหายใจได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยยื่นผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้รัฐบาลยกระดับปฏิบัติการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นควันระยะเผชิญเหตุร้ายแรงสุด ระหว่างเดือน มีนาคม-พฤษภาคม 2563 ปัญหามลพิษฝุ่นควันและผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี ตั้งเดือนมกราคม 2563เป็นต้นมา ประชาชนชาวเชียงใหม่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศเป็นพิษมาอย่างต่อเนื่อง และเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 เฉลี่ย 24 ชม. เกินค่ามาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าเกิดจากไฟป่าในพื้นที่ทั่วภาคเหนือในบริเวณภูเขาสูงชัน การดับไปด้วยคนเดินเท้าไม่สามารถทำได้ ประกอบกับจำนวนเจ้าหน้าที่มีจำกัด

ในส่วนของสภาลมหายใจ ซึ่งเป็นองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวของประชาชน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ยกระดับปฏิบัติการแก้ไขและลดผลกระทบที่เกิดจากมลพิษฝุ่นควันในช่วงนี้

158321001740

โดยขอเสนอ 1.ให้รัฐบาลลดภาระค่าใช้จ่ายสาธารญูปโภคน้ำประปาไฟฟ้าในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน รวม 3 เดือน ที่มีค่าฝุ่นรุนแรง ประชาชนมีภาระเพิ่มขึ้นจากการป้องกันตนเอง ใช้เครื่องฟ้าฟอกอากาศ เครื่องปรับอากาศ หน้ากากกันฝุ่น รวมถึงต้องใช้น้ำเพื่อรดบรรเทาฝุ่นละอองเพิ่มจากปกติ ยังไม่นับรวมภาระอันจากสุขภาวะที่ย่ำแย่ลง

2. ต่อปัญหาการเกิดไฟไหม้ในที่โล่ง ทั้งเขตป่าและเขตเมืองอันเป็นสาเหตุหลักลำดับแรกๆ ของปัญหาที่ยังเกิดอยู่ต่อเนื่อง ให้ระดมทรัพยากร จ้าหน้าที่ บุคลากร เช่น เสือไฟ ป้องกันภัยฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเครื่องจักรจากพื้นที่อื่นมาในเขตภาคเหนือตอนบน ให้เพียงพอกับ ขนาดจุดความร้อน จุดเกิดไฟไหม้ และ สภาพยากลำบากภูมิประเทศ รวมถึงงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับเจ้าหน้าที่ดังกล่าวอย่าให้เป็นภาระของท้องถิ่น ชุมชน หรือประชาชน

3. ให้ปรับปรุงระบบรายงานจุดไฟไหม้ ขนาดกลางและเล็กเข้าไปในรายงานและปฏิบัติการของศูนย์สั่งการฯ เพราะดาวเทียมมีรอบเวลา เช้า และ บ่าย ซึ่งยังมีจุดอ่อนจากระบบการรายงาน โดยมักจะพบการลักลอบเผาในช่วงที่ดาวเทียมผ่านรอบเวลาไปแล้ว ทำให้จุดเกิดไฟไม่มีอยู่ในรายงานสั่งการ

4. มาตรการเขตเมือง ให้เข้มงวดอย่างจริงจัง ใช้กฎหมายพิเศษหรือข้อกำหนดอื่นใด เพื่อห้ามปล่อยควันจากปากปล่องโรงงานอุตสาหกรรม การก่อสร้างขนาดใหญ่ ในวันที่ ค่าอากาศเฉลี่ยเกินมาตรฐาน เพราะควันจากปากปล่องและการก่อสร้างเหล่านี้จะเพิ่มปริมาณและความเข้มข้นของฝุ่นควันยิ่งขึ้นไปอีก

158321005889

158321007353

5. สำรวจพื้นที่เสี่ยงของแต่ละตำบลที่ยังไม่ถูกเผา หรือถูกเผาซ้ำซาก เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันพื้นที่ดังกล่าว โดยให้เพิ่มอัตราโทษการลักลอบเผา และจัดชุดเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องติดตามพื้นที่เสี่ยง ให้มีระบบป้องกันและติดตามเอาผิดจริงจัง แม้ว่าที่ผ่านมามีการตั้งด่านกลั่นกรองผู้ผ่านเข้าป่า และมาตรการปิดป่าของพื้นที่อนุรักษ์แต่ยังไม่เพียงพอ

6. รักษาและให้กำลังใจพื้นที่ซึ่งรักษาและป้องกันการเผาไหม้ที่จัดการได้ดี เช่นพื้นที่ป่าชุมชน หรือ บางชุมชนที่รวมตัวเข้มแข็งเพื่อป้องกันรักษาพื้นที่ป่าละแวกของตน ให้รัฐบาลสนับสนุนกลุ่มจัดการดังกล่าวในระยะ 2 เดือน(มีนาคม-เมษายน) อย่างเร่งด่วน ทั้งงบประมาณและอุปกรณ์ที่กลุ่มดังกล่าวร้องขอ

นอกจากนั้น สภาลมหายใจเชียงใหม่ยังได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ด้วยการระดมทุนเพื่อสนับสนุน 32 ตำบล ในพื้นที่ 25 อำเภอ ใช้เป็นทุนในการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน และพื้นที่เกษตร ทั้งนี้ปัญหา pm2.5 ไม่ได้เกิดจากการเผาภายในจังหวัดเพียงปัจจัยเดียว แต่มีปัจจัยแวดล้อมจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีจุดความร้อนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งในจังหวัดใกล้เคียงก็มีปัญหาการเกิดจุดความร้อนด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้ต้องใช้แผนบูรณาการระดับประเทศ พื้นที่ไม่สามารถดำเนินการเองได้ รัฐบาลต้องมีการแก้ไขปัญหาในระดับอาเซียน ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เห็นแผนในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งสะท้อนให้เห็นการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่ไม่กระจายออกมายังพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งแตกต่างจากการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว

158321008837