นักศึกษาอิรัก ‘ไม่กลัวไวรัส’ เดินหน้าชนรัฐบาล

นักศึกษาอิรัก ‘ไม่กลัวไวรัส’ เดินหน้าชนรัฐบาล

ผู้ชุมนุมชาวอิรักยังคงประท้วงรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง แม้อิรักจะพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

หลายเดือนมาแล้วที่ผู้ชุมนุมชาวอิรักประท้วงรัฐบาลที่ไร้ความสามารถ บริการสาธารณะย่ำแย่ ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเมืองในประเทศ เขาเหล่านั้นประท้วงตั้งแต่ก่อนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดเสียด้วยซ้ำ เมื่อไวรัสมาถึงยิ่งปลุกพลังของขบวนการนิสิตนักศึกษา

“ไวรัสตัวจริงก็คือนักการเมืองอิรัก นอกนั้นเรามีภูมิคุ้มกันเกือบหมดแล้ว”   ฟาติมา นักศึกษาแพทย์วัย 18 ปี ผู้ร่วมประท้วงในกรุงแบกแดดกล่าวหนักแน่น

ประชาชนอิรักรวมตัวกันตั้งแต่เดือนต.ค. ชุมนุมกันทุกจัตุรัสในเมืองหลวง และหลายเมืองทางภาคใต้ ตอนนี้เริ่มพูดถึงเรื่องสาธารณสุข มีการแจกจ่ายใบปลิวและบรรยายเรื่องการป้องกันไวรัสโคโรนา อาสาสมัครแจกจ่ายหน้ากากป้องกันเชื้อโรค ที่ตอนนี้ราคาในท้องตลาดพุ่งขึ้นกว่า 2 เท่า

คลินิกชั่วคราวที่ตั้งขึ้นมาเมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อรักษาผู้ประท้วงที่ถูกยิงโดยกระสุนจริงหรือโดนแก๊สน้ำตาตอนนี้ใช้เป็นจุดแจกจ่ายถุงมือและเจลล้างมือ อาสาสมัครส่วนหนึ่งสวมชุดป้องกันเชื้อโรคคอยวัดอุณหภูมิผู้ประท้วงที่ยืนเข้าแถวคอยอย่างเป็นระเบียบ

“แม้แต่ในเวลาปกติระบบดูแลสุขภาพเราก็ไม่พออยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีไวรัสระบาดอีก แล้วจะให้เราหวังพึ่งโรงพยาบาลพวกนั้นเหรอ” ฟาติมา ที่รับหน้าที่อาสาสมัคร ณ จัตุรัสตาห์รีกลางกรุงแบกแดด ศูนย์กลางการประท้วงขยายความต่อ

บรรยากาศโดยทั่วไปภายในศูนย์การแพทย์ของอิรัก ภาพอ่างล้างมือในห้องซักล้างเปื้อนเลือด สิ่งอำนวยความสะดวกขาดตกบกพร่อง พบเห็นกันอยู่เป็นประจำ

ฮาซัน คัลลาตี คณะกรรมาธิการสาธารณสุขรัฐสภาอิรัก เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า โรงพยาบาลและศูนย์สุขภาพมีอุปกรณ์ครบถ้วนรับมือการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ แต่ข้อมูลที่เอเอฟพีได้มาเป็นคนละเรื่อง ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ระบุว่า อิรักมีหมอไม่ถึง 10 คนต่อประชากร 10,000 คน

อิรักพบผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นชาวอิหร่านที่เข้ามาศึกษาในโรงเรียนสอนศาสนาเมืองนาจาฟ ทางภาคใต้ของอิรัก

ตั้งแต่นั้นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 19 คน ทุกคนเกี่ยวข้องกับอิหร่าน ประเทศที่มีพรมแดนติดกัน

ในอิหร่านมีผู้เสียชีวิต 54 คน ติดเชื้อ 978 คน เสียชีวิตมากที่สุดนอกประเทศจีนที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด ส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอิรัก ตลาดส่งออกใหญ่สุดประเทศหนึ่งของอิหร่าน อีกทั้งเมืองนาจาฟและคาร์บาลาของอิรัก ยังเป็นสถานที่แสวงบุญยอดนิยมของชาวอิหร่านด้วย

ขณะเดียวกันชาวอิรักจำนวนมากก็นิยมข้ามไปอิหร่านเพื่อทำธุรกิจ ท่องเที่ยว หาหมอ และศึกษาศาสนา

ดังนั้นเพื่อเป็นการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางการอิรักสั่งปิดพรมแดนทางบกกับอิหร่าน ห้ามคนต่างชาติที่เดินทางมาจากเพื่อนบ้านรายนี้และประเทศอื่นๆ ที่โควิด-19 ระบาดหนักเข้าประเทศ

ส่วนในค่ายประท้วง ความรู้สึกต่อต้านอิหร่านรุนแรงขึ้นทุกที จากที่ระอุมาหลายเดือนแล้วเมื่อผู้ประท้วงกล่าวหาว่าอิหร่านเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของอิรัก ผสมโรงกับข้อกล่าวหาที่ว่า ทางการอิหร่านปกปิดเรื่องโรคระบาดรุนแรงในประเทศ

158315558618

ตอนนี้ผู้ประท้วงกล่าวว่า ทางการอิรักก็กำลังทำแบบเดียวกัน

“เราคิดว่ายังมีผู้ติดเชื้ออีกมากที่รัฐบาลไม่ประกาศ พวกเขาต้องโปร่งใสกับประชาชน” รุสซอล นักศึกษาแพทย์กล่าวในค่ายประท้วงที่เมืองดิวนิยา ทางภาคใต้ของอิรัก

การที่รัฐบาลสั่งปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงภาพยนตร์ คาเฟ่ และสถานที่สาธารณะอื่นๆ ไปจนถึงวันที่ 7 มี.ค. โดยเฉพาะหลังจากรัฐบาลประกาศห้ามการชุมนุมของคนจำนวนมากเพราะกลัวไวรัสแพร่กระจาย

ม็อกตาดา ซาดร์ นักการศาสนาคนดัง ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการประท้วง ก่อนประกาศถอนการสนับสนุนช่วงปลายเดือน ม.ค. กล่าวกับผู้ภักดีว่า อย่าไปชุมนุมเพราะไวรัสกำลังระบาดแต่นักศึกษาซึ่งเป็นกำลังหลักในการประท้วง ฉวยโอกาสที่รัฐบาลสั่งปิดมหาวิทยาลัยพากันลงถนน

เมื่อวันอาทิตย์ (1 มี.ค.) นิสิตนักศึกษาหลั่งไหลเข้าสู่จุดประท้วงในกรุงแบกแดดและดิวานิยา กดดันให้รัฐบาลยกเครื่องหลังจากนายกรัฐมนตรีอาเดล อับเดล มาห์ดี ลาออกไปเมื่อ 2 เดือนก่อนเพราะถูกประชาชนกดดันอย่างหนัก

158315560654

นักศึกษาผู้ไม่เคยย่อท้อกล่าวว่า พวกเขาเจอภัยคุกคามอันตรายยิ่งกว่าไวรัสโคโรนาเสียอีก ในอิรักยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ด้วยซ้ำไป

“สไนเปอร์ของคุณยังขวางเราไม่ได้ นับประสาอะไรกับไวรัสโคโรนา” ผู้ประท้วงตะโกนก้อง

ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงใช้ทั้งแก๊สน้ำตา กระสุนยาง ระเบิดแสง กระสุนจริง และแม้แต่ปืนกลสลายการชุมนุม ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นมาประชาชนถูกสังหารไปแล้วราว 550 คน บาดเจ็บอีก 30,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ประท้วง

เฉพาะสัปดาห์ที่แล้วสัปดาห์เดียว ผู้ชุมนุม 4 คนถูกยิงเสียชีวิตในค่ายประท้วง นักเคลื่อนไหวคนหนึ่งถูกลอบสังหารถึงบ้าน

“พรรคการเมืองและการทุจริตกำลังแพร่ระบาด อันตรายเสียยิ่งกว่าไวรัสโคโรนาเสียอีก การระบาดแบบนี้ล่ะ ที่เราอยากขจัดให้สิ้นซากเพราะมันทำลายอิรัก” โมฮัมหมัด นักศึกษามหาวิทยาลัยในเมืองดิวานิยากล่าวด้วยความขุ่นเคือง