'โหรฟองสนาน' เผยชะตาเมืองหลังพระเสาร์จรย้ายจากธนูเข้ามังกร

'โหรฟองสนาน' เผยชะตาเมืองหลังพระเสาร์จรย้ายจากธนูเข้ามังกร

"โหรฟองสนาน จามรจันทร์" เผยชะตาเมืองหลังพระเสาร์จรย้ายจากธนูเข้ามังกร อันเป็นขอบเขตของคณะรัฐบาล รัฐมนตรี ภาระการบริหารประเทศ การปกครองประเทศ รวมทั้งบุคคลที่ขึ้นมามีอำนาจที่ไม่ได้มาตามธรรมดาสามัญ

ฟองสนาน จามรจันทร์โพสต์ข้อความระบุ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 313 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563 เวลาประมาณ 09.00น. พระเสาร์จร(7) เทพพระเจ้าแห่งความระทม-ทุกข์จะย้ายจากราศีธนูเข้าไปเดินในราศีมังกร ซึ่งเป็นภพที่สิบ กัมมะ อันเป็นขอบเขตของคณะรัฐบาล รัฐมนตรี ภาระการบริหารประเทศ การปกครองประเทศ รวมทั้งบุคคลที่ขึ้นมามีอำนาจที่ไม่ได้มาตามธรรมดาสามัญ รอบแรก(มีเดินผิดปกติ)แต่โดยภาพรวมแล้วจะอยู่ที่นี่ไปจนถึงมีนาคม 2566

ต่อไปนี้ผู้เขียนขอประมวลสิ่งที่เคยทำนายไว้ก่อนหน้านี้ถึงสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเมืองอันเป็นผลจากพระเสาร์จรจะย้ายราศี และดาวสำคัญอื่นๆที่ทำมุมกับดวงเดิมดวงเมืองมาให้ครบถ้วนเสียที่เดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องร้อนแรงทางการเมืองและไวร้สโควิด-19 ดังนี้

1.ด้านการเมืองอย่าลืมว่ามฤตยูจร(0) เจ้าของภัยอาเพศรวมทั้งโรคระบาด การปฏิวัติ ล้มล้างสิ่งเก่า สถาปนาสิ่งใหม่ การผลัดเปลี่ยนทันทีทันใด การเนรเทศ ประพฤติแปลกๆ ทำการโดยถูกยุยง ฯลฯยังเดินอยู่ในราศีเมษทับลัคนาเมือง-พระอาทิตย์(๑) ดาวการเมืองและบุคคลสำคัญในเมือง และเป็นดาวตัวแทนจิตใจคนในเมือง(ตนุเศษ) อยู่ และจะอยู่ที่นี่ต่อไปจนถึงกรกฎาคม 2565 ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงหรือปฏิวัติใหญ่ในเมือง-การเมือง-บุคคลสำคัญในเมือง องคพายพทางการเมืองทั้งหลาย เช่น รัฐสภา รัฐธรรมนูญฯลฯยังจะมีอยู่ต่อไปในแบบไม่คาดฝัน ล็อคถล่ม เกินคาดคิด

โดยอาการของมฤตยูนี้คนที่คนต้องการเปลี่ยนแปลงก็เห็นว่าล้ำเลิศ ฝ่ายที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงจะมองว่าวิตถาร หากต้องการดูตัวเป็นตัวอย่างอย่างคือกรณีเบร็กซิท-เม็กสิทที่สหราชอาณาจักร หรือการเมืองในมาเลเซียจากการวาดลวดลายของสิงห์เฒ่ามหาเธร์ แห่งมาเลเซีย ส่วนลีลาในเมืองเมืองรัตนโกสินทร์รอบนี้คือ

1.1 ผู้เขียนเคยขียนไว้ในหนังสือชื่อ คู่มือรับมือมฤตยูผู้อาเพศ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์กรีน ปัญญาญาณ ตีพิมพ์เมษายน 2559 ทำนายว่าการมาทับลัคนาเมืองของมฤตยูจรรอบนี้ซึ่งเป็นรอบที่สาม(มีนาคม2559-กรกฎาคม2565)จะคล้ายๆกับสมัยปลายรัชกาลที่สาม ต่อต้นรัชกาลที่สี่(มฤตยูจรทับลัคนาเมืองรอบแรก) ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้วพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองสิริราชสมบัติ พร้อมกับเตรียมการประเทศให้เป็นตะวันตกเพื่อรองรับภัยจากการล่าเมืองขึ้นของชาติตะวันตก

แต่การมาทับลัคนาเมืองของมฤตยูจรรอบนี้จะไม่เหมือนคราวปฏิวัติสยาม 2475(มฤตยูจรทับลัคนาเมืองรอบที่สอง) เพราะหากจะปฏิวัติ-มีเรื่องรุนแรงขนาดนั้นจะมีเกณฑ์ร้ายอื่นร่วม ซึ่งในประวัติศาสตร์ของกรุงรัตนโกสินทร์เกิดขึ้นเพียงสามครั้งเท่านั้นคือคราวเสียดินแดนสมัยรัชการที่ห้า-คราวปฏิวัติสยาม2475 และคราวเหตุการณ์พฤษภาทิฬ2535 จึงถ้าจะให้เหมือนปี 2475 จะต้องคอยเวลาอีก 84 ปี เมื่อมฤตยูกลับมาที่ราศีเมษอีกครั้ง

1.2 หากยังจำกันได้ผู้เขียนได้ทำนายไว้ตั้งแต่ปลายปี 2562 ว่าระหว่าง 30 ตุลาคม 2562-1 หรือ 2 มีนาคม 2563 จะเกิดปรากฎการณ์ตรึงกำลังสองฝ่ายในเมือง(ปรากฎการณ์พฤหัสบดีตรึงกับพระเสาร์ในดวงเมือง)ทำให้อึดอัดใจทั่วไปเหมือนคนท้องอืด ซึ่งก็เกิดขึ้นจริง ด้วยเรื่องการยุบพรรคอนาคตใหม่ที่ลุ้นกันมานานก็ที่ชัดเจนขึ้นแล้วก่อนก่อนพระเสาร์ย้ายไม่กี่วัน ผลคือทำให้แฟนๆพรรคอนาคตใหม่เป็นเดือดเป็นแค้นแปรพลังเป็นแฟลชม๊อบในเบื้องต้น คำถามคือ แล้วต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น? มีคำตอบที่ผู้เขียนให้นานมาแล้วคือ

1.3 ในหนังสือชื่อ ลอกคราบใหม่ประเทศไทยที่ตีพิมพ์ตั้งแต่มกราคม 2558 โดยสำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ นั้นบอกว่า มีเกณฑ์โหรสำคัญแทรกเข้ามาในดวงชะตาเมือง ขณะที่มฤตยูจรทับลัคนาเมืองรอบนี้คือเมื่อคิดตามหลักของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตรแล้วกรุงรัตนโกสินทร์จะเริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคที่ 13 ที่ผู้เขียนเรียกว่ายุคสี่จี. (ขณะนี้เป็น5จี.)มาตั้งแต่มีนาคม 2562 แล้ว และยุคนี้จะกินเวลายี่สิบปี อันจะเป็นยุคล้ำสมัย และจะมีอะไรดีๆบังเกิดมากมายพรรณาไม่หมดเช่นจะซื้อของก็ไม่ต้องไปตลาดอีกแล้วฯลฯ แต่ด้านร้ายคือในอดีตการเกิดยุคคล้ายๆกันนี้ (พระพฤหัสบดีจรแตะและร่วมราศีกับพระเสาร์จรในราศีธนู) เคยเกิดขบวนการแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ และเกิดความเชื่อลัทธิคอมมิวนิสต์ในระดับสัมนาส่องแสงกันในมหาวิทยาลัยซึ่งขณะนั้นผู้เขียนเรียนอยู่-ผ่านเหตุการณ์มาทั้ง 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 จากคำทำนายคราวนั้นเมื่อมาถึงวันนี้ผู้เขียนได้ประจักษ์กับตาแล้วว่า ได้เกิดขบวนการจากนักศึกษา เด็กๆของดวงเมือง คนที่มีความคิดล้ำเลิศ-หรือวิตถารก็แล้วแต่-ต้องการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในบ้านเมืองในระดับจะให้เป็น 2475 ก็มี แล้วคาดว่าผลจะออกมาเช่นอย่างไร?

1.4 หลังจากปรึกษากับโหรภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติซึ่งเป็นโหรจริง-หลักแม่นแล้ว เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายในเมืองที่สู้กันอยู่จะผลัดกันรุกผลัดกันไล่ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อันเกิดจากพฤหัสบดีจรผลัดกันไล่ล่ากับพระเสาร์จรไปจนถึงประมาณ 5 ธันวาคม 2563 แล้วทุกฝ่ายคงพยายามปรับตัวอยู่ให้ได้ (พระเสาร์จรร่วมราศีกับพฤหัสบดีจร-ไม่ใช่มุมเล็งอันเป็นมุมที่ที่รุนแรงกว่า)

1.5 ไม่ว่าจะต่อสู้กันยาวนาน รุนแรงขนาดไหน ผู้เขียนเชื่อว่าน่าจะเป็นศึก4G-5G-เฟซบุ๊ก-ทวิสเตอร์(เป็นหลักใหญ่)- แต่หากจะมีอะไรมากกว่านี้ก็มั่นใจว่าเมืองก็อยู่รอดปลอดภัยเสมอ สถาบันหลักของชาติคงอยู่ต่อไป เพียงแต่จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย อีกทั้งทุกวิกฤตที่เกิดขึ้นเมืองจะมีโอกาสใหม่ๆตามมาเสมอ(ดวงเมืองกรรไกรหนีบแบบคลายออก)

2.ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าประมาณ 15 พฤษภาคม 2563 จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (อาจเกิดก่อน7วันหรือหลัง7วัน)


3.ปรากฎการณ์อึดอัดใจไปทั่วเมืองเหมือนคนท้องอืดจะก่อตัวขึ้นอีกรอบด้วยการตรึงกำลังกันในเมืองระหว่างกลางเดือนกรกฎาคม-กลางเดือนพฤศจิกายน 2563 อาจจะมีบางช่วงที่เมืองเหมือนเมืองถูกบีบหน้าหลัง รวมทั้งผู้นำคือนายกรัฐมนตรีมีแนวโน้มถูกบีบจนหน้าเขียวหน้าเหลือง ถ้าจะมีจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในทางการเมืองตั้งแต่ 10 กันยายน 2563-สิ้นปีจะเป็นเรื่องดีมากกว่าร้าย(พระราหูศรีจรทับพระอังคารดวงเดิมดวงเมือง)

4.ปี่กลองเลือกตั้งท้องถิ่นที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปีแต่แผ่วไป น่าจะเริ่มคักคักอีกรอบประมาณพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป

5.ปรากฎการณ์ไวรัสโควิด-19 นั้นเกิดจากมฤตยูจร(0)ภัยพิบัติ โรคระบาดร้ายแรงเกิดขึ้นแบบอาเพศทับลัคนาโลกและเมืองรออยู่นานแล้ว ครั้นตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2562เป็นต้นมาเมื่อพระพฤหัสบดีจร(5)เล็งกับพระราหูจร(8)เป็นคู่โรคระบาดเรื่องก็เริ่มระเบิดขึ้นที่จีน 
ผู้เขียนคาดว่าตั้งแต่ 17 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปเมื่อพฤหัสบดีจรหยุดเล็งกับพระราหูจรสถานการณ์จะค่อยๆดีขึ้น แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ กับภัยพิบัติแปลกๆและอื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่เมษายน2563เป็นต้นไปคนในเมืองาต้องระวังอาหารการกิน(ทักษาเมืองตกภูมิพุธ-อย่ากินเนื้อกินนกจะร้อนอกเจ็บนาภี)

6.ประชาชน-ชาวบ้านมีเคราะห์ทั้งเกี่ยวกับเจ็บไข้ได้ป่วย-หนี้-บางคราวเกิดจากฝ่ายรัฐบาล(พระเสาร์จรเล็งพระจันทร์ดวงเดิม๒) เช่นในอดีตถูกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม รอบนี้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปลายปีระวังค่าเงินผันผวนอีก 
วิธีรับมือคือตำราบอกให้สวดมนต์ ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง หรือหากรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจทำอีกด้านในทางตรงข้ามคือลดภาษีมูลค่าเพิ่มชั่วคราวในช่วงที่พระเสาร์จรยังอยู่ที่มังกร

7.ใครมาเป็นรัฐบาลก็ภาระหนักมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเศรษฐกิจ (พระเสาร์จรถึงพระศุกร์ดวงเดิม๖) ส่วนฝ่ายค้าน-ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลก็ดวงตก(พระเสาร์จรเล็งพระจันทร์ดวงเดิม๒)-ประมาณปลายกันยา2563ระวังค่าเงินผันผวนต่อ

8.ทหาร-ลัทธิทหาร ผู้มีอำนาจต้องใช้อำนาจแบบละมุนละม่อม (พระอังคารเป็นกาลกิณีจร)-ควรทำเรื่องดีๆ-จะมีอะไรดีๆเกี่ยวกับตำรวจ

9.มีจังหวะที่เมืองจะเดือดร้อนเนื่องจากศัตรูใหญ่รบกันเช่นคราวสงครามอ่าวฯ หรือไวรัสโควิด19

10 .ยืนยันคำทำนายเดิมฟืนไฟ -อุบัติเหตุร้ายแรงทั้งทางบก อากาศ น้ำ ดิน ควัน แก๊ส อาวุธ เลือด ลม ยาพิษ จะเกิดชนิดไม่คาดฝันได้เป็นข่าวใหญ่ ไปทั่วโลก

11.หญิงงาม ดารา นักร้อง เซเลป ระดับนางพระยาในวงการมีเคราะห์ทั้งหลายมีเคราะห์อาจมีสูญเสีย พลัดพรากให้เศร้าโศก


12.ด้านดียังมีโอกาสที่เมืองได้โชคเทวฤทธิ์ หรือเทวดาให้โชคอีกรอบ หลังจากประมูล5จี.ไปแล้ว คราวนี้อาจมีข่าวดีเรื่องแก๊ส พลังงานที่ผู้เขียนหวังอยู่

13.ด้านดีไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเป็นรัฐบาล การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศยังจะทำต่อไปเพื่อได้ใช้ไปอีก 20 ปี

14.เรื่องที่ดิน-ต้นไม้-สวนป่าของทั้งรัฐบาลและเอกชนโดดเด่น รวมทั้งเรื่องบันเทิง-เหล้าเบียร์-ปุ๋ยหมัก-ของหมักดอง-พลาสติกชั้นดี(เช่นย่อยสลายได้)-การเก็งกำไรก็ระเบิดรวมทั้งตลาดหุ้นที่ชวนหัวใจวาย-อาจมีการออกสลากแนวใหม่ฯลฯ
ผลไม้และพืชน้ำมันได้กลางๆแต่ข้าวมีเคราะห์ต้องจัดการดีๆ รวมทั้งเคมี กาแฟ ชา ยาสูบเหล็ก กีฬาส่วนใหญ่ที่จะดูไม่ค่อยจืดมากกว่าดี

15.ตั้งแต่เมษายน 2563 เป็นต้นไป หากมีคดีความ เมืองมักจะชนะ(ทักษาจรตกภูมิพุธ)

16.มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวแบบแปลกสักครั้ง-สองครั้ง

กล่าวโดยสรุปต่อไปนี้เมื่อพระเสาร์จรย้ายราศีเรื่องทั้งดี-ร้ายสามารถเกิดขึ้นในเมืองได้ตลอด แต่ดูแนวแล้วเกณฑ์ร้ายจะโดดเด่นมากกว่าดี ซึ่งดวงชะตาเดิมเมืองรัตนโกสินทร์ก็เป็นเช่นนี้ คือ หากเมืองนิ่งๆกำลังไปด้วยดีก็ต้องระวังเรื่องร้ายไม่คาดฝันจะเกิดขึ้น

แต่หากมีเรื่องร้ายและความวุ่ยวายแล้วโอกาสดีจะตามมาทุกครั้ง และที่ร้ายกว่านี้ประชาชนของเมืองก็ผ่านกันมาแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพื้นฐานจริงๆของประชาชนในดวงเมืองนั้นถูกออกแบบมาให้มั่นคง รักถิ่นฐานและมาตุภูมิ(พระจันทร์๒มาตรฐานเกษตราธิบดี)

ส่วนจิตใจของคนไทยนั้นอาจผันแปรไปตามดาวจรที่มาทำมุม(เช่นมฤตยูจรจอมล้ำเลิศ-วิตถารที่กำลังทับพระอาทิตย์๑ตัวแทนจิตใจคนไทยในขณะนี้)แต่ในที่สุดแล้วจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ก็ผูกพันกับเมือง(พระอาทิตย์๑ดาวจิตใจกุมลัคนา)และพระราชสายพระโลหิตของพระผู้สถานปนากรุงรัตนโกสินทร์ คือจิตใจของคนไทย(พระอาทิตย์๑-ตัวแทนภพปุตตะ-ของเมือง-เป็นตนุเศษหมายถึงจิตใจ)

ฟองสนาน จามรจันทร์
27 กุมภาพันธ์ 2563