เปิดสตูดิโอซอยสาม คุยกับ โชน ปุยเปีย

เปิดสตูดิโอซอยสาม คุยกับ โชน ปุยเปีย

สตูดิโอซอยสาม (soi sa:m) ตั้งอยู่ในซอยสวนพลู 3 ประกอบไปด้วยแกลลอรีจัดแสดงผลงานออกแบบแฟชั่น ห้องจัดเก็บผลงานต้นแบบตั้งแต่ครั้งเป็นนักศึกษาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งเป็นสถานที่ทำงานของ โชน ปุยเปีย ดีไซเนอร์วัย 26 ปี

โชนชวนเราทิ้งเสื้อผ้าสีขาวดำแล้วไปสนุกกับสีสันอันเจิดจ้าและสดใส

เสื้อผ้าในคอลเลคชั่น The Brighter World โดดเด่นด้วยสีแดง เขียว ม่วง เหลือง ในขณะที่ โชน เปิดสตูดิโอคุยกับเราในเสื้อเชิ้ตสีม่วงกับกางเกงสีดำ กล่าวได้ว่าการเติมความสดใสให้กับท้องฟ้าสีเทาของกรุงเทพฯได้เป็นอย่างดี

แม้ว่าจะไม่เคยมีความคิดเลยสักนิดว่าอยากจะเป็นศิลปินเหมือน พ่อ – ชาติชาย ปุยเปีย แม่- พิณรี สัณฑ์พิทักษ์ หากการเติบโตขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยศิลปะ กลับกลายเป็นพื้นฐานที่หล่อหลอมให้ผลงานออกแบบแฟชั่นของโชนมีเอกลักษณ์ที่ดูราวกับเป็นผลงานศิลปะ

158298509335

“โชนไม่เคยรู้สึกกดดัน แต่ไม่เคยแว่บเข้ามาเลยว่าอยากเป็นอาร์ทิสต์ ช่วงเรียนม.ปลายที่สาธิตปทุมวัน เป็นช่วงที่ค้นหาอยู่ว่าอยากจะเรียนต่อแนวไหน คิดว่าคงอยู่ในทางงานดีไซน์ ตอนแรกคิดว่าจะไปทางสถาปัตย์ พอไปลองเรียนดูแล้วไม่ใช่ทาง

ช่วงนั้นโชนเรียนภาษาฝรั่งเศสที่สมาคมฝรั่งเศส แล้วเห็นเขามีคลาสสอน Pattern Making, Draping ดูน่าสนใจดี เลยลองไปเรียนตรงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โชนสนใจด้านแฟชั่น”

เมื่อรู้แน่แล้วว่าตัวเองชอบอะไร โชนจึงเริ่มหาข้อมูลจนไปพบเรื่องราวของ Dries Van Noten จบด้านแฟชั่นจาก Royal Academy of Fine Arts Antwerp ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็น 1ใน 6 ดีไซเนอร์ที่จบมาในยุค 80 แล้วทำให้โรงเรียนนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง

“โชนสะดุดตรงที่ดีไซเนอร์ทุกคนที่จบจากที่นี่มี Identity ชัดเจนไม่ได้ตามกระแสแฟชั่นของโลก”

ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเตรียม Portfolio ฝึกดรออิ้งและวาดสีน้ำโดยมีพ่อและแม่ช่วยเป็นติวเตอร์ ในที่สุดโชนสอบเข้าเรียนที่ Royal Academy of Fine Arts Antwerp สมความตั้งใจ โดยใช้เวลา 4 ปีในการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโท

“เป็นโรงเรียนเล็กๆรับนักศึกษาปีละ 60 คน ตอนปีแรกช่วงปลายปีจะหายไปครึ่งหนึ่ง ปีสุดท้ายที่เรียนจบจริงๆจะเหลือปีละ 10-15 คน รุ่นโชนจบแค่ 6 คน คือเคี่ยวมากครับที่น่าสนใจคือ บางคงเรียนไปไม่กี่เดือนจะรู้ตัวว่าอยากเป็นช่างมากกว่านักออกแบบ ส่วนคนไทยที่จบจากที่นี่มี พี่เอก ทองประเสริฐ (เจ้าของแบรนด์ Ek Thongprasert)”

158298513661

สำหรับ The Brighter World เป็นทั้งผลงานออกแบบเสื้อผ้าในคอลเลคชั่น 2019 และนิทรรศการลำดับที่สองของ soi sa:m นำเสนอเรื่องราวของความสุขของการแต่งกายผ่านตัวละครที่มีบุคลิกหลากหลาย แต่มีความเชื่อมโยงกัน โชนบอกว่าต้องการให้ผู้สวมใส่เกิดความตื่นเต้นเร้าใจและรู้สึกโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้จึงเน้นความสำคัญในเรื่องสีและรูปทรง องค์ประกอบที่นำมารวมกันแล้วเกิดความพลิ้วไหว เกิดความรู้สึกที่เป็นอิสระ

158298621917

158298624122

ผลงานในคอลเลคชั่นนี้ โชนนำเอาเยื่อไหมมาวาตะ วัสดุที่เคยเห็นในผลงานศิลปะของแม่มาปรับใช้ในชุดเดรสและกางเกงเพื่อสื่อให้เห็นรูปทรงที่มีเอกลักษณ์และความงามของเยื่อไหม นอกจากนี้ยังนำเอาหนังปลาแซลมอนมาตัดและเย็บต่อกันกันด้วยงานเย็บมือเป็นลวดลายธนูของญี่ปุ่น มีทั้งเสื้อคลุม และกระโปรง

158298521557

158298524665

ส่วนงานออกแบบลายผ้าอันถือเป็นงานถนัดที่โชนสร้างสรรค์ออกมาในทุกคอลเลคชั่น สำหรับครั้งนี้ มีทั้งงานออกแบบลวดลายดอกไม้ที่เกิดจากการใช้พู่กันชุบน้ำยากัดสีวาดลงบนผ้าเพื่อให้เกิดเป็นลวดลาย งานพิมพ์ซิลค์สกรีนลายดอกดาวดึงส์ในเชิงกราฟฟิก และลายผ้าที่เกิดจากการสร้างงานคอลลาจกระดาษสี ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากพรมท้องถิ่นของชาวโมรอคโคที่นำเศษผ้าและขนสัตว์มาถักทอเข้าด้วยกัน

โลกที่เต็มไปด้วยสีสันอันสดใสของโชน ยังเต็มเติมความสุขของการแต่งกายด้วยกระเป๋าและรองเท้าสีสดที่มีดีเทลที่ชวนให้น่าตื่นตา เต็มไปด้วยความสนุกสนาน

158298527181

“ลูกค้าของโชนส่วนใหญ่เป็นคนที่รักการแต่งตัว มีทั้งคนในแวดวงศิลปะ ผู้ใหญ่ก็มี พอมาทำเสื้อผ้าcustom made ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องสรีระคน การแก้ไขปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับผู้สวมใส่ที่ไม่ใช่เป็นไซส์นางแบบ”

เราถามถึงราคาของผลงานเสื้อผ้าว่ามีความใกล้เคียงกับราคาของงานศิลปะหรือไม่ โชนยิ้มแล้วตอบว่า

“เป็นราคาที่สะท้อนถึงงาน ซึ่งเป็นลักซ์ชูรี่โปรดักท์ที่มีการเลือกใช้วัสดุที่มันมีคุณภาพ ประกอบกับงานตัดเย็บที่มีดีเทลละเอียดอ่อน ไม่ใช่ fast Fashion แต่มองว่าเป็น Sustainable คือ คนเราจะเลือกชิ้นที่พิเศษที่ชอบ ไม่ใช่มีเสื้อผ้าเต็มตู้ที่ไม่ใส่”