เปิดแผนรับมือไวรัส ‘มาเลเซีย-สิงคโปร์’

เปิดแผนรับมือไวรัส ‘มาเลเซีย-สิงคโปร์’

เปิดแผนรับมือไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ของมาเลเซีย-สิงคโปร์ ที่พยายามใช้มาตรการต่างๆ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากรที่อยู่แถวหน้าในการทำสงครามกับไวรัส

ขณะที่ทั่วโลกเร่งหาทางสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายประเทศในเอเชีย เริ่มรับรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของไวรัสร้ายแรงชนิดนี้แล้ว โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านใกล้ไทยอย่างมาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่พยายามใช้มาตรการต่างๆ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากรที่อยู่แถวหน้าในการทำสงครามกับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

เริ่มจาก “มหาธีร์ โมฮัมหมัด” รักษาการนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่แม้จะปวดหัวกับปัญหาการเมืองอย่างหนัก ก็ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2 หมื่นล้านริงกิต (4.7 พันล้านดอลลาร์) เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ ครอบคลุมถึงการลดหย่อนภาษี การช่วยเหลือบริษัทในภาคธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ภาคการท่องเที่ยว การจัดหาเงินกู้สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงการมอบเงินสดให้กับประชาชน

มหาธีร์ คาดว่า เศรษฐกิจของมาเลเซีย ซึ่งเผชิญกับภาวะปั่นป่วนทางการเมืองในประเทศด้วยนั้น จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในกรอบ 3.2-4.2% ในปีนี้ โดยลดลงจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนของรัฐบาลที่ราว 4.8%

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย รายงานยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 23 ราย และ 22 ราย ได้รับการรักษาจนสามารถออกจากโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่คณะรัฐมนตรีสิงคโปร์ร่วมบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการสละเงินเดือน 1 เดือน มอบเป็นโบนัสแนวหน้าทำสงครามกับโควิด-19 เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบถ้วนหน้าจากโรคนี้ ประธานาธิบดี รัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงพร้อมใจกันหั่นเงิน เดือนและเบี้ยเลี้ยงของตัวเองลง

เฮง สวี คีท รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่า ประธานาธิบดี รัฐมนตรีทั้งคณะ และผู้มีตำแหน่งทางการเมืองทั้งหมด พร้อมใจกันลดเงินเดือน 1 เดือนเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวสิงคโปร์ทั้งประเทศ ที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ส่งผลกระทบแทบทุกภาคส่วน

ส่วนเจ้าหน้าที่แนวหน้าทั้งหลายในการทำสงครามกับไวรัสของสิงคโปร์ จะได้รับโบนัสพิเศษ 1 เดือน รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลในโรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือโรคโควิด-19 โดยตรง

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาว่า คนทำงานแนวหน้าของประเทศ โดยเฉพาะบุคลากรการแพทย์ในสถานพยาบาลที่รับผิดชอบ ได้แสดงให้เห็นถึง ความกล้าหาญและความทุ่มเท พวกเขาเสียสละทุกวันเพื่อทำศึกกับสิ่งที่ยังไม่รู้

“เราไม่รู้ว่าจะแสดงความขอบคุณอย่างไรถึงจะมากพอ แต่สามารถแสดงออกถึงการยกย่องและสนับสนุนแบบจับต้องได้” รองนายกฯสิงคโปร์กล่าวหลังอภิปราย ร่างงบประมาณประจำปี 3 วัน

สิงคโปร์ มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสะสม 96 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งศาสตราจารย์ ตัน ชอร์ ชวน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ให้ความเห็นว่า แม้ ตอนนี้สิงคโปร์สามารถชะลอการระบาดได้แล้ว แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าสถานการณ์เลวร้ายสุดได้ผ่านไปแล้ว

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลสิงคโปร์มีขึ้น หลังจากบริษัทชั้นนำหลายแห่งของสิงคโปร์พากันใช้นโยบายระงับการปรับขึ้นเงินเดือนและลดเงินโบนัส ในช่วงเวลาที่สิงคโปร์กำลังพยายามที่จะรับมือกับผลกระทบของโรคโควิด-19 เช่น เทมาเสก โฮลดิ้ง บริษัทเพื่อการลงทุนของ รัฐบาลสิงคโปร์ที่ประกาศระงับการปรับขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงาน และเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงปรับลดเงินเดือน และโบนัสลงโดยสมัครใจ ซึ่งมาตรการนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน เม.ย.นี้

เทมาเสก มีเป้าหมายที่จะกันเงินสำรองไว้สำหรับการบริจาคเพื่อช่วยเหลือชุมชน และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

เทมาเสก โฮลดิงส์ เป็นกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ก่อตั้งในปี 2518 มีกระทรวงพาณิชย์ของสิงคโปร์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทลงทุนในธุรกิจหลากหลายประเภทในสิงคโปร์ โดยเริ่มต้นจากกิจการต่อเรือและการผลิต ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วโลก มีพอร์ตการลงทุนมูลค่าประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท

เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางการสิงคโปร์ปรับลดการคาดการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ลง 0.5% อยู่ที่ 1.5% และคาดการณ์ว่าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยว และการค้าของประเทศ รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศ