จุรินทร์ยืนเป้าส่งออกโต 3% ถกทูตพาณิชย์รับโควิด-19

จุรินทร์ยืนเป้าส่งออกโต 3%  ถกทูตพาณิชย์รับโควิด-19

"จุรินทร์" ยืนเป้าส่งออกตามรัฐบาลโต 3% แม้เผชิญโควิด-19 หลอนไม่เลิก ถกทูตพาณิชย์ระดมแผนทำงานเร่งดันส่งออก ชี้หากภายใน 3 เดือนสถานการณ์ไม่ดีขึ้นต้องปรับแผนทำงานอีกครั้ง ด้าน "สค." เตรียมประเมินเลิก-เลื่อนงานแสดงสินค้าสำคัญ

158289694480 เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลก ว่าเพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกของไทยในปีนี้ ภายใต้ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่จบ ภัยแล้งในประเทศที่ส่งผลให้ผลผลิตสินค้าเกษตรลดลง รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้การค้าระหว่างประเทศต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดในการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกของไทยในปีนี้ใหม่ เพื่อให้มูลค่าการส่งออกมีอัตราการขยายตัวได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ 3% เมื่อเทียบกับปี 2562 หรือให้ขยายตัวได้มากที่สุด

โดยเป้าหมายมูลค่าส่งออกของไทยในปีนี้ต้องยึดตามเป้าหมายของรัฐบาลที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแล้วคือขยายตัว 3% ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คงจะไปปรับเปลี่ยนคนเดียวไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ทูตพาณิชย์ประเมินว่าในบางตลาดและในบางสินค้ายังมีโอกาส เช่น อาหาร อาหารสำเร็จรูป ข้าว และผลไม้ โดยตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้ดี เช่น สหรัฐ จีน อินเดีย รวมถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชียใต้ อย่างบังกลาเทศ ปากีสถาน เป็นต้น

 ทั้งนี้จะบุกเจาะตลาดเป้าหมายทั้งตลาดเดิม ตลาดใหม่ และฟื้นตลาดเก่า การจัดงานแสดงสินค้าในประเทศต่างๆ การจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ซึ่งตนมีเป้าหมายจะเป็นหัวหน้าคณะเดินทางไป 18 ประเทศ แต่ขณะนี้บางประเทศอาจต้องเลื่อนการเดินทางออกไปก่อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  

รวมถึงการประชาสัมพันธ์ในประเทศที่มีความอ่อนไหวผ่านทุกช่องทาง โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น สหรัฐ สหภาพยุโรป ฯลฯ เพื่อให้เชื่อมั่นนำเข้าสินค้าไทย และย้ำให้เห็นว่ายังคงนำเข้าสินค้าจากไทยได้เหมือนเดิม เพราะการผลิตสินค้าไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สินค้าไทยยังมีคุณภาพมาตรฐานเช่นเดิม

"ขณะนี้สถานการณ์การค้าโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 และยังไม่รู้ว่าการระบาดจะคลี่คลายลงเมื่อไร แต่โดยส่วนตัวมองว่าถ้าการระบาดยังไม่จบภายใน 3 เดือนนับจากนี้ ก็ต้องมาปรับกลยุทธ์กันใหม่อีก เพื่อทำให้แผนผลักดันการส่งออกทันกับการเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ปรับใหม่ก็ไม่ทันกิน”

ด้านนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการระบาดของโควิด-19 ทำให้กรมเดินทางไปเจาะตลาดในบางประเทศไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน ฯลฯ ดังนั้น นอกจากการเน้นทำตลาดออนไลน์แล้ว ยังจะมีการเจรจาการค้ากับผู้ซื้อผ่านเทเลคอนเฟอเรนซ์ด้วย

ส่วนการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในไทย ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในไทยว่าจะมีการเลื่อนการจัดงานหรือไม่ ซึ่งล่าสุดจะเลื่อนการจัดงานแสดงสินค้ายานยนต์ หรือ TAPA 2020 ที่จะจัดวันที่ 2-5 เม.ย.นี้ออกไปก่อน แต่งานอื่นๆ เช่น งานแสดงสินค้าอาหาร Thaifex2020 ที่จะจัดปลายเดือน พ.ค.2563 ยังไม่เลื่อน

ส่วนนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนมองว่าการส่งออกของไทยในปีนี้น่าจะไม่ขยายตัว และน่าจะติดลบ 1% ถึงติดลบ 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะนอกจากจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกแล้ว ยังมีปัญหาภัยแล้งในประเทศที่ทำให้ผลผลิตเกษตรกรลดลง อย่าง ข้าว ทำให้ส่งออกได้น้อย แต่ยังดีที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาบ้าง ซึ่งเมื่อนำรายได้จากการส่งออกที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐมาแลกเป็นเงินบาทแล้ว ยังได้เงินเพิ่มขึ้น