‘บินไทย’คลอด 7 มาตรการรัดเข็มขัดฝ่าวิกฤติดโควิด-19 ดีเดย์เริ่ม 1 มี.ค.นี้

‘บินไทย’คลอด 7 มาตรการรัดเข็มขัดฝ่าวิกฤติดโควิด-19 ดีเดย์เริ่ม 1 มี.ค.นี้

“บินไทย” ออกมาตรการเซฟคอส์ตหลังโควิด -19ฉุดธุรกิจการบินต่อเนื่อง สั่งยกเลิกพนักงานทำงานล่วงเวลา ลดจ้างเอาท์ซอร์ส ชะลอการจ้างบุคคล ลงทุนใหม่ เลิกค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เริ่ม 1มี.ค.นี้

รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ได้ลงนามในคำสั่ง เรื่องมาตรการรองรับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่าสถานการณ์การแพร่เชื้อของไวรัสโควิด -19 ยังมีการแพร่รระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ ทำให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ ได้ประกาศห้ามหรือเตือน ประชาชนของตนเองงดการเดินทางไปยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดและมีความเป็นไปได้มากที่สถานการณ์จะยืดเยื้อต่อไปอีกระยะ

ปัญหาดังกล่าวได้กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างรุนแรงบริษัทมีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการรองรับวิกฤติการณ์นี้ได้แก่1.ปรับลดเงินเดือนผู้บริหาร ประกอบด้วย ปรับลดเงินเดือนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ในอัตรา 25%, ปรับลดเงินเดือนรองกรรมการผู้จัดการผู้อำนวยการใหญ่ (อีวีพี) ในอัตรา 20% ปรับลดเงินเดือนผู้อำนวยการใหญ่ (วีพี) หรือกรรมการผู้จัดการ (เอ็มดี) ระดับผู้อำนวยการใหญ่ในอัตรา15%

2.ปรับลดค่าพาหนะเหมาจ่ายของผู้บริหารตามตำแหน่ง ดังนี้ ระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปรับลดเหมาจ่ายในอัตรา 30%, ระดับผู้อำนวยการใหญ่ (วีพี) หรือกรรมการผู้จัดการ (เอ็มดี) ระดับผู้อำนวยการใหญ่ ปรับลดในอัตรา 20%3.ปรับลดงบประมาณสำหรับการเดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานลง 30% ยกเว้นพนักงานที่ปฏิบัติงานบนเครื่องบินปรับลดจำนวนพนักงานที่จะส่งไปปฏิบัติหน้าที่ และจำนวนวันในการปฏิบัติหน้าที่ 4.ให้ทุกหน่วยงานบริหารจัดการกำลังพลไม่ให้เกิดการทำงานล่วงเวลา

5. ปรับลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานภายนอก (เอาท์ซอร์ส)ให้ลดลงไม่น้อยกว่า 20% 6.ปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการ และความปลอดภัยให้เหลือเท่าที่จำเป็น เช่น ชะลอการจ้างบุคลากร ชะลอการลงทุนและการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและ7.ให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ระดับผู้อำนวยการใหญ่ของพนักงานที่จะเกษียณอายุในวันที่ 30 ก.ย. 2563ใช้วันลาหยุดพักผ่อนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมดก่อนวันเกษียณอายุ

ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2563 จนถึงวันที่ 31 ส.ค.2563ในกรณีสถานการณ์คลี่คลาย บริษัทฯ อาจพิจารณายกเลิกมาตรการหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ยืดเยื้อหรือรุนแรงเพิ่มขึ้น บริษัทฯมีความจำเป็นต้องยกระดับมาตรการเพิ่มเติม โดยจะประกาศให้ทราบต่อไป