‘นอนแบงก์’ ไม่ห่วง 'แกร็บ' ลงแข่งปล่อยสินเชื่อ

‘นอนแบงก์’ ไม่ห่วง 'แกร็บ' ลงแข่งปล่อยสินเชื่อ

 “นอนแบงก์” ไม่ห่วงคู่แข่งเพิ่ม หลังแกร๊บทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล คาด1-2 ปีไร้ผลประทบ เพราะยังจำกัดปล่อยกู้เฉพาะพาร์ทเนอร์ แถมวงเงินต่อรายต่ำ แต่ต้องติดตามสถานการณ์หากแกร็บขยายวงสินเชื่อสู่ประชาชนทั่วไป ด้าน “แกร็บ ไฟแนนซ์”แจงไม่ได้มุ่งแข่งกับใคร

นายนันทวัฒน์ โชติวิจิตร กรรมการบริหาร บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ประเมินว่าการเข้ามาทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยของแกร็บ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของตลาดสินเชื่อบุคคลในช่วง1-2ปีข้างหน้า  เนื่องจากแกร็บยังปล่อยสินเชื่อในวงจำกัดเฉพาะพาร์ทเนอร์คู่ค้าและร้านค้าเท่านั้น และวงเงินสินเชื่อต่อรายไม่สูงมาก ประกอบกับยังมีเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับ ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่จำกัดสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อได้ไม่เกิน 3 แห่ง แต่หลังจากนั้นต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

“เราคงต้องติดตามสถานการณ์ เมื่อแกร็บเริ่มขยายการปล่อยสินเชื่อไปยังบุคคลทั่วไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของสินเชื่อบุคคล ไม่ใช่วงเงินมากเท่าไหร่ แต่อยู่ที่การเก็บหนี้ได้หรือไม่ มองว่า ระบบเครดิตสกอริ่งของแกร็บ เป็นเรื่องที่ดีช่วยดูแลตลาด ”

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการแกร็บ ไฟแนนเชียลกรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้เราไม่ได้มองใครในตลาดเป็นคู่แข่ง เพราะมีกลุ่มลูกค้าและซิสเต็มของเราเอง การเติบโตต่อไปของเรามาจากการผลักดันของภาคการเงินในระบบเที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการพาร์ทเนอร์ของแกร็บ เช่นสินเชื่อที่ไม่ขอเอกสาร ทำให้เราต้องพัฒนาสินเชื่อที่ตอบโจทย์พาร์ทเนอร์ของเราเอง

นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้อำนวยการธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน ) หรือ KTC  เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเพิ่มปริมาณสินเชื่อพร้อมการสร้างคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น ใน 4 แกนหลัก คือ 1. มุ่งหาสมาชิกใหม่ที่มีความต้องการสินเชื่อเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และวินัยทางการเงินที่ดี ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าและพันธมิตรในกลุ่มสินเชื่อเพื่อการศึกษามากขึ้น 2. มุ่งรักษาฐานสมาชิกปัจจุบันให้มีความผูกพันกับเคทีซี โดยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายสมาชิกที่มีวินัยการชำระเงินที่ดี เช่น โครงการเคลียร์หนี้เกลี้ยง โครงการเหมาเหมาจ่ายดอกเบี้ยเพียง 199 บาท รวมทั้งวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นที่สมาชิกต้องการอย่างแท้จริง

3. มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจขั้นสูงสุด ด้วยบริการใหม่เพิ่มวงเงินฉุกเฉินที่สามารถทำรายการด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง พัฒนาบริการเบิกเงินสดออนไลน์ผ่านแอพ“KTC Mobile” ตลอด 24 ชั่วโมงแบบเรียลไทม์ และจะเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว”  และ4. มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกค้า เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยสร้างวินัยทางการเงินผ่านกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ (Financial Literacy) และบทความที่เป็นประโยชน์ในรูปแบบของสื่อที่เข้าใจง่าย ต่อยอดการจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปแบ่งปันความรู้เพื่อประกอบอาชีพ พร้อมให้คำแนะนำด้านการลงทุนเพื่อนำไปสร้างรายได้ในอนาคต

โดยปี 2563 ยังคงป้าหมายสินเชื่อส่วนบุคคลตั้งเป้าเติบโตที่ 10% และจำนวนบัตรกดเงินสด เคทีซี พราว 210,000 ใบ เจาะกลุ่มพนักงานที่มีรายได้ประจำตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป โดยจะมุ่งเน้นช่องทางการรับสมัครผ่านทางออนไลน์มากขึ้น และเน้นขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่แล้ว 9 แสนราย ให้ใช้จ่ายต่อเนื่องและมีวินัยการชำระหนี้ที่ดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน