ไวรัสโควิด-19 ยังกดดันตลาด

ไวรัสโควิด-19 ยังกดดันตลาด

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้น แข็งแรงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค อย่างไรก็ดี คาดเป็นแรงรีบาวด์ระยะสั้นหลังจากที่ตลาดปรับตัวลงแรงก่อนหน้านี้

ขณะที่ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,395.08 จุด (+28.67 จุด) Volume 7.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ -110.08 ลบ. TFEX Net +27,751สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+สหรัฐเตรียมทดลองยาต้านไวรัสโควิด-19 กับผู้ป่วยในเอเชีย 1,000 รายเดือนหน้า

+/-สหรัฐเผย GDP Q4/62 ขยายตัว 2.1% สอดคล้องคาดการณ์

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 1,190.95 จุด -4.42% ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.64 ดอลลาร์ -3.4% ปิดที่ 47.09 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากข่าวการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างของไวรัสโควิด-19 โดยล่าสุดสหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายแรกที่ไม่ทราบต้นตอของการติดเชื้อ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

-คาดว่าก.คลังเตรียมปรับคาดการณ์ GDP ปี 63 ลดลงจาก 2.8% ในเดือนเม.ย.เนื่องจากมีหลายปัจจัยกดดันโดยเฉพาะไวรัส COVID-19 ที่เริ่มส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมี.ค.63

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 36,540.27 ลบ. ค่าเงินบาท 31.84 บาท/US

*จับตาสภาฯ นัดประชุม 9.30 น.ลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล และคืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก หลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกที่ไม่ทราบต้นตอของการติดเชื้อ บ่งชี้ถึงการแพร่ระบาดในชุมชนเป็นครั้งแรกในสหรัฐ ประกอบกับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,365-1,395 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (TU CPF)
  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้น High Dividend (KKP TISCO INTUCH)
  • MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน (CRC BDMS BTS)

หุ้นรายงานพิเศษ

IP Analyst meeting (มุมมองบวก) รับ 4.20 ต้าน 4.60

- รายงานกำไรปี 62 ที่ 43.5 ลบ. เติบโต 46%YoY โดยได้แรงหนุนจากรายได้ที่เติบโตขึ้น 17%YoY สู่ 371 ลบ. โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย และธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลงจาก 60.5% สู่ 57.6% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ช่วงต้นปี

- ปี 63 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตราว 15-20% โดยมีการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจธุรกิจผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัยมีผลิตภัณฑ์ใหม่ 5-7 ผลิตภัณฑ์ และธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ 3-4ผลิตภัณฑ์ช่วยหนุนการเติบโตของรายได้

- ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อการขยายธุรกิจและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเนื่องจากเป็นการออกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทซึ่งจะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นสู่ 60% ช่วยหนุนผลประกอบการปี 63 ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

หุ้นมีข่าว   

·      JUBILE Analyst meeting มุมมองเป็นกลาง (ซื้อ ราคาเหมาะสม 24.5 บาท) รับ 17.5 ต้าน 18.4

- ผบห.ตั้งเป้าการเติบโตปี 63 อยู่ที่ 6-8% สู่ระดับ 1.90-1.94 พันล้านบาท โดยยังคงใช้กลยุทธ์เพิ่มการเติบโตของสาขา (SSSG) มากกว่าการขยายสาขาใหม่ โดยใช้การวิเคราะห์แบบ Vision Analytic เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการสาขาแบบ real time อีกทั้งมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องตามฤดูกาล และได้จับมือกับ line friends และ Hello Kitty เพื่อออกผลิตภัณฑ์ในราคาย่อมเยาเพิ่มขึ้น

- ด้านผลกระทบของไวรัส Covid-19 ในปัจจุบันกระทบเพียง 10 สาขาจากทั้งหมด 131 สาขา โดยสาขาที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นสาขาใน กทม. ขณะที่ต่างจังหวัดยังไม่พบผลกระทบ อย่างไรก็ตามทาง ผบห. ได้ติดตามสถานะการณ์อย่างใกล้ชิดและมีการปรับกลยุทธ์เป็นรายวันสำหรับสาขาที่ได้รับผลกระทบ

- ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการในปี 63 อาจไม่ได้เติบโตสูงเท่าปี 62 เนื่องจากปี 62 เป็นปีที่สร้างจุดสูงใหม่ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ และปี 63 ยังมีปัจจัยลบจากการระบาดของไวรัส Covid-19 และภาวะภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เราจึง แนะนำเพียง ซื้อรับปันผล ที่ราคาเหมาะสม 24.5 บาท

·      (+/-) จับตา 3 เจ้าสัว ซีพี-เซ็นทรัล-ทีซีซีกรุ๊ปเสนอซื้อธุรกิจในเอเชียของ เทสโก้ภายในวันนี้ (28 ก.พ. 63) หลังเทสโก้ได้ให้บริษัทที่สนใจยื่นข้อเสนอที่มีผลผูกมัด ก่อนจะทบทวนข้อเสนอและตัดสินใจในเดือนหน้า (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) CHAYO (Bloomberg Consensus 6.65 บาท) ใส่เกียร์ลุยซื้อหนี้มีหลักประกันเข้าพอร์ตเพิ่มจากธนาคารพาณิชย์ 2 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านบาท คาดเดือน มี.ค. 2563 ได้ข้อสรุป ตั้งเป้าขยายพอร์ตบริหารหนี้ปี 2563 ทะลุ 6 หมื่นล้านบาท ประเมินภาพรวม 2 เดือน แรกปีนี้การเติบโตยังใกล้เคียงกับปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+) EA (Bloomberg Consensus 60.54 บาท)  บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 19 มีนาคม จ่าย 22 พฤษภาคม 2563 นี้ พร้อมอนุมัติออกหุ้นกู้วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ทุ่มงบ 5.13 พันล้านบาท เข้าซื้อหุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาในฉะเชิงเทรา รองรับการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+/-) BDMS (Bloomberg Consensus 27.61 บาท) ประกาศทำเทนเดอร์ BH ที่ราคาหุ้นละ 125-150 บาท ใช้เงิน 8.5 หมื่นล้านบาท ถึงแสนล้านบาท ด้าน "ชัย โสภณพนิช" ลั่นตระกูลและพันธมิตรไม่ขาย ต้องการถือยาว ชี้พรรคพวกมีสัดส่วนถือหุ้นรวม 50% ขณะที่บิ๊ก BH ร้องบอร์ดแข่งขันการค้าสอบ (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+) TTW Analyst Meeting (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 14.45 บาท) มุมมองบวกจากแนวโน้มรายได้และผลการดำเนินงานปี 63 เติบโตจากปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 3,128 ล้านบาท +10% จากการที่บจ.ไซยะบุรี พาวเวอร์ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ (ถือหุ้น 25% ) เริ่มขายไฟฟ้าใน 4Q62 จะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 63

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกและแนะนำ TTW เป็นหุ้นปลอดภัย จากปริมาณความต้องการใช้น้ำสม่ำเสมอส่งผลให้ผลการดำเนินงานเติบโตสม่ำเสมอ