'ณัฐชา' แฉ 'ธรรมนัส' โต้! ปมเมีย-นอมินี ถือหุ้นคู่สัญญาตลาดคลองเตย

เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.พ.) นายณัฐชา  บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรค อภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสภาฯ ต่อความไม่เหมาะสมและมีคุณสมบัติต้องห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีผลประโยชน์ขัดกัน กรณีที่นางอริสรา พรหมเผ่า ภรรยาของร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้ถือหุ้น 85เปอร์เซ็นต์ ในบริษัทตลาดคลองเตย2551 จำกัด หรือชื่อเดิมคือ บริษัทลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐวิสาหกิจคือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคม ที่มีสัญญาสัมปทานเพื่อพัฒนาพื้นที่ตั้งแต่ ปี 2561 - 2571 ไปจนถึง 30 เมษายน 2562 ทั้งที่ร.อ.ธรรมนัส เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี  แต่หลังจากนั้นพบว่านางอริสา ได้โอนหุ้นให้กับนอมินี คือ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร ฐานะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทคลองเตยฯ ทั้ง 85 เปอร์เซ็นต์ คือ  5.1 แสนหุ้น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561

ทั้งนี้ตนลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าที่อยู่ของน.ส.วิภาดา ที่จ.นครราชสีมา อยู่ในตรอก ขณะที่บ้านของนายประภวิษณุ์ แก้วเกษม ฐานะสามีของน.ส.วิภาดร ยังมีขนาดเล็ก ไม่เหมาะสมต่อการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่มูลค่ามหาศาล ทั้งนี้กรณีที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าร.อ.ธรรมนัสต้องการได้รับประโยชน์ฐานะคู่สัญญาของรัฐต่อไปจนถึงปี 2571  และเป็นเรื่องที่ขัดจริยธรรม ไม่เหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวตนจะแจ้งไปยังองค์กรอิสระให้ตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ ต่อประเด็นคุณสมบัติของการเป็นรัฐมนตรีกำหนดเป็นข้อห้ามไว้  

“ผมขอให้ส.ส.พิจารณาต่อการลงมติไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส เพราะมีประวัติสีเทา และแจ้งวุฒิการศึกษาปริญญาเอกปลอม ซึ่งคาดว่าจะซื้อมา แม้ผมจะอภิปรายช่วงดึก มีคนฟังน้อย แต่ขอให้รับฟัง และผมขอราตรีสวัสดิ์” นายณัฐชา อภิปราย

ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ลุกห้ามว่าอย่าเพิ่งราตรีสวัสดิ์ พร้อมชี้แจงทันทีว่าผู้อภิปรายเข้าใจผิดต่อการได้สัญญาสัมปทานจากรัฐ ที่อภิปรายเคยเห็นสัญญาสัมปทานหรือไม่แต่ตนเป็นเพียงผู้เช่าที่ดิน เพื่อสร้างตลาดคลองเตย ทั้งนี้เคยเห็นหรือไม่ที่มีผู้เช่าที่ดินของรัฐแล้วนำไปสร้างตึก ถือว่าเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ใช่  อย่างไรก็ตามตนหากินสุจริต ซึ่งตนม มี 16 บริษัทที่ขายกิจการ ทำให้มีรายได้ แต่มีเพียงบางบริษัทที่ยังทำเพื่อเลี้ยงครอบครัว 

“น.ส.วิภาดา คือผู้ก่อตั้งบริษัทลีเกิ้ลฯ ร่วมกับผมตั้งแต่ปี 2545 และเป็นถือหุ้น ร่วมทุกข์ร่วมสุขมากับผม กับข้อมูลที่บอกว่าน.ส.วิภาดา อยู่จ.นครราชสีมา ข้อเท็จจริงคือ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร มีหลายคน และคนที่ถือหุ้นกับผมพร้อมคู่สมรส อยู้บ้านเลขที่ 69 หมู่ 4 อ.บ้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ผมไม่ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย สิ่งที่ส.ส.อภิปรายมามีนักต่อสู้คือ เอกชัย ร้องไปทุกองค์กรอิสระให้ตรวจสอบผม ทั้งนี้ผมยืนยันทุกอย่างที่ชี้แจงมาจากใจ และเป็นความจริง” ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจง 

ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงด้วยว่าไม่เคยมีคดีใดที่พิพากษาให้ตนจำคุก เพราะทุกคดีจบก่อนมีคำพิพากษา ขณะที่ประวัติทางการศึกษา วุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอกจากสถาบันของต่างประเทศที่ไม่ผ่านรับรอง ตนไม่ทราบโดยสุจริตว่าสถาบันดังกล่าวผ่านการรับรองหรือไม่ เพราะเป็นผู้บริโภค หากรู้ว่าไม่มีมาตรฐานจะเสียเวลาให้มาสอนหรือเสียเงินค่าหน่วยกิตหลักล้านบาททำไม ซึ่งตนเรียน และทำงานวิจัย ไม่ใช่ใช้เงินซื้อวุฒิการศึกษา

ทั้งนี้ตนฟ้องร้องและดำเนินการกับสถาบันดังกล่าวรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องฐานะผู้เสียหาย อย่างไรก็ตามตนบริหารราชการแผ่นดินฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กว่า 4 เดือน ลงพื้นที่ตรวจราชการทั่วประเทศรวม 45 จังหวัด รวม 111 ครั้งคิดเป็น 95 วัน คิดเป็น 708 ชั่วโมง ยกเว้นวันที่มีประชุมครม., ประชุมสภาฯ ซึ่งไม่มีรัฐมนตรีคนใดที่ลงพื้นที่มากเหมือนตน ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่ทำงานบกพร่องหรือผิดพลาด ส่วนเรื่องอดีตตนไม่สามารถย้อนไปแก้ไขได้ แต่จะทำงานเพื่อประเทศ ตามคำขวัญที่ติดไว้ว่า ใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อราษฎร์ ราชบังลังก์ และประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สาม ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. ได้ใช้เวลาประชุมรวมกว่า 17 ชม. ทั้งนี้ได้การพักประชุม เมื่อเวลา 02.45 น.และนัดประชุมต่อในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30 น.