HANA - ซื้อ

HANA - ซื้อ

ผลประกอบการ 4Q62: กำไรจากธุรกิจหลักดีเกินคาด

Event

กำไรจากธุรกิจหลักของ HANA ใน 4Q62 อยู่ที่ 457 ล้านบาท (-30% YoY แต่ +17% QoQ) ดีกว่าประมาณการของเรา 27% และดีกว่าที่ตลาดคาด 13% จากอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น และ ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง ส่งผลให้กำไรจากธุรกิจหลักในปี 2562 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (-35% YoY) สูงกว่าประมาณการของเรา 7%

lmpact

ผลประกอบการ 4Q62: ยอดขายเป็ นไปตามคาดในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น

ยอดขายของ HANA ในสกุลดอลลาร์ใน 4Q62 เป็นไปตามคาดโดยอยู่ที่ 162 ล้านเหรียญ (-5%YoY, -4% QoQ) ส่งผลให้ยอดขายในปี 2562 อยู่ที่ 656 ล้านเหรียญ (-5%YoY) ในขณะเดียวกัน GPM ใน 4Q62 ก็อยู่ที่ 12.6% (ดีกว่าประมาณการของเราที่ 11.5%) ส่งผลให้ GPM ในปี 2562 อยู่ที่ 11.6% (ดีกว่าประมาณการของเราที่ 11.2%) ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นคาดมาจากโครงสร้างยอดขายที่ดีขึ้น

ปัญหา Supply chain disruption เป็ นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อุตสาหกรรมยังอยู่ในขาขึ้นอยู่

การระบาดของ COVID-19 อาจจะเป็นเหตุให้เกิด supply disruption ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และทำให้วัฏจักรขาขึ้นเกิดช้าลงเนื่องจากจีน ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้นำของเทคโนโลยี 5G ต้องเจอกับภาวะการปิดเมือง ทีมวิจัย KGI ไต้หวันคาดว่า supply disruption จะกดดันแนวโน้มธุรกิจในระยะสั้น (1H63) แต่ฟื้นตัวได้ใน 2H63 และpenetration rate ของ 5G จะเพิ่มเป็น 34% ในปี 2564 ดังนั้น ทีมวิจัย KGI ไต้หวันจึงปรับลดประมาณการยอดส่งออก smartphone โลกในปี 2563 ลง 4.5% (Figure 2) นำโดย smartphone ของจีนที่ -6% เราคาดว่าจะส่งผลกระทบกับอัตราการเติบโตของยอดขาย HANA ในปี 2563 ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการยอดขายในสกุลดอลลาร์ปี 2563 ลง 3%แต่คงประมาณการปี 2564

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 1% แต่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้น 9%

จากแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาท เราจึงได้ i) ปรับสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนเป็น 31.00 บาท/US$ และ ii) ปรับสมมติฐาน GPM 0.2% เป็น 12.0% ในปี 2563 และปรับปี 2564 0.6% เป็น 12.6% ซึ่งส่งผลให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 1% แต่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้น 9% ทำให้อัตราการเติบโตของกำไรในปี 2563-64 อยู่ที่ 7% และ 18% ตามลำดับ

Valuation & Action

เนื่องจากเราคาดว่าปัญหา supply disruption จะกดดันแนวโน้มระยะสั้น ในขณะที่แนวโน้มระยะยาวของอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในขาขึ้น ดังนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนยังคงเกาะกับธีมมหภาคเรื่อง 5G ผลประกอบการที่อ่อนแอใน 1H63 อาจจะทำให้ภาวะตลาดเป็นลบ แต่ก็เป็นโอกาสให้เข้าซื้อสะสม โดยเรายังคงคาดว่ากำไรจะโตได้ถึง 12% ในปี 2563-64 และขยับไปใช้ราคาเป้ าหมายโดยอิงจาก EPS เฉลี่ยปี 2563-64 โดยยังคงใช้ PER ที่ 18.0X ซึ่งทำให้ได้ราคาเป้ าหมายใหม่ที่ 39.00 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 37.00 บาท และเนื่องจากแนวโน้มของอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในขาขึ้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"

Risks

ภัยธรรมชาติ มีการปิดโรงงานนอกแผน ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น วัตถุดิบขาดแคลนและเงินบาทแข็งค่าขึ้น