‘ทรัมป์-โมดี’ ความเหมือนในความต่าง

‘ทรัมป์-โมดี’ ความเหมือนในความต่าง

วิเคราะห์สัมพันธ์ "อินเดีย-สหรัฐ" ที่ผูกพันใกล้ชิดทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง ผ่านการเยือนอินเดียของ "ทรัมป์" เป็นสัญญาณถึงผลประโยชน์ที่สอดคล้องต้องกัน รวมทั้งเป็นหนทางรับมือการผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจของจีน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เคียงคู่ภริยา “เมลาเนีย” เดินทางด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันถึงเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราตของอินเดียวานนี้ (24 ก.พ.) ตามกำหนดเยือนอินเดีย 2 วัน เพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศประชาธิปไตยใหญ่สุดของโลก ที่ตึงเครียดเพราะข้อพิพาทการค้า

เจ้าหน้าที่อินเดียเผยผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อินเดียและสหรัฐผูกพันใกล้ชิดทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง การเยือนอินเดียสองวันของทรัมป์เป็นสัญญาณถึงผลประโยชน์ที่สอดคล้องต้องกัน รวมทั้งเป็นหนทางรับมือการผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจของจีน

นอกจากทรัมป์ เมลาเนีย และคณะรัฐมนตรีที่รวมถึงวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐแล้ว อิวานกา บุตรสาวทรัมป์ และจาเรด คุชเนอร์ บุตรเขยก็ร่วมทางมาด้วย 

ก่อนแอร์ฟอร์ซวันลงจอด ทรัมป์ทวีตข้อความเป็นภาษาฮินดี

“เราพร้อมจะมาอินเดีย ตอนนี้อยู่ระหว่างทาง และจะได้พบกับทุกๆ คนภายในไม่กี่ชั่วโมงนี้”

ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีทวีตข้อความตอบ “แขกคือพระเจ้า”

โมดี ไปรอรับทรัมป์และเมลาเนียที่สนามบิน ส่วนพิธีต้อนรับอันยิ่งใหญ่อลังการจัดขึ้นที่สนามคริกเก็ตใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 110,000 ที่นั่ง มวลชนมากันเต็มสนาม

หลายคนสวมหมวกขาวเขียนข้อความ “นมัสเตทรัมป์” ขณะที่คนงานแจกหน้ากากกระดาษแข็งรูปทรัมป์หลายพันชิ้นให้ผู้มาร่วมงาน

งานนี้นายกฯ อินเดีย ผู้สร้างสายสัมพันธ์ส่วนตัวกับทรัมป์ ยอมเลิกงานทุกอย่างเพื่อการมาเยือนของผู้นำสหรัฐโดยเฉพาะ แม้ว่าข้อตกลงการค้าที่รัฐบาลวอชิงตันกำลังผลักดันอาจทำให้เกิดปัญหา

ปีก่อนตอนที่ "โมดี" ไปเยือนสหรัฐ เขาได้ปรากฏตัวร่วมกับทรัมป์ในงาน “ฮาวดีโมดี” ต่อหน้าชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย 50,000คนที่สนามฟุตบอลแห่งหนึ่งในเมืองฮิวส์ตัน ที่ทรัมป์ชมว่า โมดีเรียกคนได้ราวกับเอลวิส เพรสลีย์ ส่วนงานที่อาห์เมดาบัดยิ่งใหญ่กว่านั้น

บรรยากาศในเมืองอาห์เมดาบัด ทางการปิดถนน ร้านค้า ตำรวจเข้าประจำการบนดาดฟ้าและระเบียง โรงเรียนขนนักเรียนขึ้นรถบัสหลายคันมุ่งหน้าสู่สนามคริกเก็ต พร้อมกู่ร้อง “เรารักทรัมป์” นักเรียนหลายคนถือธงชาติอินเดีย

“ผมมาที่นี่ตั้งแต่ 7 โมงเช้า จำไม่ได้ว่าแจกหน้ากากไปมากน้อยแค่ไหน พวกเราชอบทรัมป์ เขาทำธุรกิจเก่ง” ทุรวิน ปราจาปาตี อาสาสมัครวัย 19 ปี ทำหน้าที่แจกหน้ากากทรัมป์จำนวน 2,000 ชิ้นให้ผู้มาร่วมงาน

ปกติแล้วการหาเสียงของทรัมป์จะเรียกคนได้มากที่สุดในบรรดาผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ทุกงานมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 20,000 คน  ด้วยเหตุนี้ทรัมป์จึงชื่นชมความสามารถของโมดีที่เรียกคนได้มากกว่าตน

สำหรับกำหนดการในอินเดียจากอาห์เมดาบัด ทรัมป์จะไปเมืองอัคราเพื่อชมทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักในยามตะวันตกดิน จากนั้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันไปลงจอดที่กรุงนิวเดลี เพื่อพบปะหารือกับเจ้าหน้าที่และผู้นำภาคธุรกิจอินเดีย

แต่แม้มิตรภาพระหว่างทรัมป์กับโมดีจะได้รับการเฉลิมฉลองอย่างเอิกเกริกก็คาดว่าข้อตกลงการค้าแบบครอบคลุมระหว่างสหรัฐกับอินเดีย เพื่อแก้ปัญหาการค้าที่ต่างฝ่ายต่างเก็บภาษีตอบโต้กันไม่น่าจะคืบหน้า ทางการทั้งสองประเทศยืนยันว่าดีลนี้ต้องรอให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเสร็จสิ้น

ทั้งสองฝ่ายต่างมีข้อโต้แย้งกันตลอดเวลา สหรัฐนั้นขอเข้าถึงตลาดสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์นมของอินเดีย ส่วนการที่อินเดียควบคุมราคาเครื่องมือแพทย์อย่างขดลวด และระเบียบอันเข้มงวดว่าด้วยการเก็บข้อมูลไว้ในประเทศบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐกล่าวว่า มีแต่จะทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจสูงขึ้น

ด้านรัฐบาลโมดีพยายามให้สหรัฐรื้อฟื้นสถานะพิเศษทางการค้าที่ถูกทรัมป์เพิกถอนไปเมื่อปี 2562 และต้องการให้สหรัฐเปิดตลาดยาและสินค้าเกษตรจากอินเดียให้มากขึ้น

สิ่งที่พอจะไปเป็นได้สำหรับการเยือนของทรัมป์ก็คือ สหรัฐและอินเดียจะประกาศข้อตกลงซื้ออาวุธ รวมถึงการที่กองทัพเรืออินเดียมีแผนซื้อเฮลิคอปเตอร์มูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์จากบริษัทล็อกฮีดมาร์ติน

ความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์กับโมดีในอีกมุมหนึ่ง เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทรัมป์ไม่เคยเหนียมอายในการแสดงความชื่นชอบผู้นำที่ใช้อำนาจเด็ดขาด บ่อยครั้งที่เขาชื่นชอบประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย และประธานาธิบดีเรเซป เตย์ยิป เออร์ดวนของตุรกี

อินเดียก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ แม้มีระบบและประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกับสหรัฐ แต่การเป็นผู้นำประชาธิปไตยที่ใช้อำนาจเด็ดขาดของโมดีก็น่าสนใจสำหรับทรัมป์ ผู้นำอินเดียรายนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่จำเป็นต้องใช้ระบอบเผด็จการก็เป็นผู้นำที่รวบอำนาจและจัดการฝ่ายค้านได้

ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ทั้งทรัมป์และโมดีมีหลายสิ่งเหมือนกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งคู่เป็นนักชาตินิยมหัวอนุรักษ์ เคยวิจารณ์ชาวมุสลิมและคนเข้าเมือง และเป็นปฏิปักษ์กับสื่อผู้ทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์

ทรัมป์และโมดีต่างมีแฟนคลับชื่นชอบเพราะบุคลิกส่วนตัว ความนิยมในตัวผู้นำทั้งสองมาแรงแซงหน้าพรรคการเมืองที่พวกเขาสังกัด